วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

[nulex] Fwd: FW: เรื่องขำขันของพระ



---------- Forwarded message ----------
From: n maneerat <nipa44@hotmail.com>
Date: ต.ค. 25, 2008 6:44 หลังเที่ยง
Subject: FW: เรื่องขำขันของพระ
To: จอย <enjoyjib@hotmail.com>, nan5 <penan5@gmail.com>, kob <akikob_ja@hotmail.com>, หลวงพี่ฉัตรชัย <wasombat999@hotmail.com>






Date: Thu, 16 Oct 2008 01:42:21 +0700
From: wilaidang2412@gmail.com
To: warasak@gmail.com; sakwara@gmail.com; pisamook@gmail.com; p_songcharoen@hotmail.com; pui_peak@hotmail.com; aegis142702@hotmail.com; pinky_2522@hotmail.com; phadet33@hotmail.com; paknam837@yahoo.com; paknam837@gmail.com; mrpramote@hotmail.com; nipa44@hotmail.com; rosanawit@hotmail.com; nort_h@hotmail.com; nudangs@yahoo.com; vadmsak@yahoo.com; fvetswks@ku.ac.th; wisanee44@yahoo.com; songsri.w@gmail.com; lertkaneth@yahoo.com; sombatsuwa@hotmail.com; skuldei@hotmail.com; sompit2490@yahoo.co.th; matsaya111@yahoo.com; matsaya_1@hotmail.com; ffismay@ku.ac.th; thongjoon@yahoo.com.sg; kamolwas@yahoo.com; buiie@yahoo.com
Subject: เรื่องขำขันของพระ

Subject:ขำๆ พระมหาสมปอง
 
 
เรื่องวัตถุดิบ
ญาติโยมหลายท่านมักถามว่า
' ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่อายุยังน้อย อยู่ในเพศบรรพชิตมามากกว่าครึ่งชีวิต มีโอกาสสัมผัสชีวิตฆราวาสไม่มากนัก
   แล้วเอาข้อมูล วัตถุดิบหรือมุกมาจากไหนหนักหนา'
  อาตมาก็ตอบว่า หลักๆ เลยก็คือ การอ่าน นอกจากนั้นก็หนัง ละคร   ที่ญาติโยมดูกันนั่นแหละ
 พอตอบออกไปอย่างนี้ โยมก็สวนกลับทันที
 ' ไม่ผิดข้อห้ามหรือท่าน'
  อาตมาก็จะอธิบายไปว่า ดูเพื่อให้เท่าทันกิเลสจะได้สกัดมันถูก   และที่สำคัญ   หากอาตมาไม่รู้หรือไม่เข้าใจ
  ตลอดจนไม่เท่าทันเรื่องราวทางโลกและ   จะมาบรรยายธรรมให้ญาติโยมรู้สึกอินกันได้อย่างไร
  ซึ่งนอกจากการอ่าน   การดูและการฟังแล้ว   หลายวัตถุดิบที่นำมาสร้างเป็นมุกฮา ก็ได้มาจากการพูดคุยกับ
  เหล่าโยมๆ นี่แหละ
        อย่างวันหนึ่งระหว่างที่อาตมากำลังฉันเพลอยู่ก็มีโยมท่านหนึ่งโทร.มา
        ' พระอาจารย์เหรอคะ   นี่อาตมาเองนะคะ'
        ' หา อะไรนะ'
        ' พระอาจารย์เหรอคะ   นี่อาตมาเองค่ะ'
        ' ถ้าโยมแทนตัวว่าอาตมา แล้วอาตมาจะแทนตัวอาตมาว่าอะไร'
        ' อ๋อ ขอโทษค่ะ'
        หลังจากนั้นก็คุยธุระกันจนจบ อาตมาก็กล่าวว่า
        ' เจริญพร'
        ' ค่ะ เจริญพรเช่นกัน'
        แน่ะ มีอวยพรให้พระด้วย
        ข้างต้นก็คือ   สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างพูดคุยกับเหล่าญาติโยม   จนถือว่าเป็นเรื่อง
 ปกติสำหรับอาตมาไปแล้ว   หรืออย่างก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง เดินถือสังฆทานมาอย่างมาดมั่น
 พอเข้ามาในกุฏิแล้ว   เธอก็มุ่งตรงไปที่พระบวชใหม่รูปหนึ่งทันที
        ' ถวายสังฆทานค่ะ'
        พระบวชใหม่ด้วยความที่ยังจำบทสวดต่างๆ ไม่ค่อยคล่องนัก จึงหยิบหนังสือขึ้นมาดู
        ' ไม่ต้องค่ะ' โยมผู้หญิงคนนั้นกล่าวอย่างหนักแน่นตามสไตล์สาวมั่น
        ' ดิฉันท่องได้ค่ะ เพราะคุณยายพาเข้าวัดตั้งแต่เด็กๆ' เธอพนมมือขึ้น ก่อนกล่าวว่า
        ' อิมานิ มะยัง ภันเต สะปะริวารานิ คิกขุ สังโฆ'   ( ที่ถูกต้อง จะต้องเป็น ภิกขุ สังโฆ)
        พระบวชใหม่มีสีหน้างุนงง ก่อนหันมาถามอาตมา
        ' คิกขุสังโฆ นี่มันฟังทะแม่งๆ นะหลวงพี่'
        อาตมาเกรงว่าโยมผู้นั้นจะหน้าแตก ก็เลยตอบไปว่า
        ' คิกขุ แปลว่า น่ารัก     สังโฆ   แปลว่า สงฆ์     คิกขุสังโฆ   ก็คือ แด่พระสงฆ์ผู้น่ารัก'
        เท่านั้นแหละ พระใหม่รูปนั้นนั่งยืดทั้งวันเลย
        แต่ก็มีบางกรณี   ที่การพูดผิดของคุณโยมทำให้อาตมาแทบจะสำลัก
        อย่างเมื่อเร็วๆ นี้ มีโยมท่านหนึ่งโทรศัพท์มา
        ' หลวงพี่ขา   ขอเรียนเชิญนิมนต์ค่ะ'
        ' ไปไหนล่ะโยม'
        ' ไปมรณภาพที่บ้านน่ะค่ะ'
        โห นิม นต์พระไปตายถึงที่บ้านเลย   อาตมาจึงบอกไปว่า   ถ้านิมนต์ไปงานศพไปให้ได้
 แต่ถ้าเชิญไปมรณภาพนี่   ช่วงนี้อาตมาไม่ว่างจริงๆ ขอตัวเถอะนะโยม
        จากตัวอย่างที่อาตมาเล่าไว้ข้างต้น   คุณโยมอาจจะเห็นเป็นเรื่องขบขัน   แต่มันก็สะท้อน
 ให้เห็นความห่างเหินระหว่างคนกับวัดได้ในระดับหนึ่ง   ปัจจุบันนี้คนจะนึกถึงวัดในกรณีพิเศษ
 เท่านั้น   เช่นงานบวช   งานศพ   ต่างกับสมัยก่อนที่วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน   ฆราวาสกับพระจึง
 สนทนากันไหลลื่น   ไม่มีคำแปลกๆ หรือผิดที่ผิดทางออกมาให้พระสุดุ้งแต่อย่างใด
        ซึ่งถ้าพูดถึงศัพท์แสงที่แสลงใจแล้ว   ตอนไปบิณฑบาตอาตมาจะเจอบ่อยมาก เช่นมีอยู่
 ครั้งหนึ่งระหว่างที่กำลังเดินๆ อยู่   ก็ได้ยินเสียงใสๆ แว่วขึ้นมา
        ' แม่ๆ พระมาขอข้าว'
        ' มาเยอะไหมลูก'
        ' มา 2   อัน'
        โห   เรียกอย่างกับชิ้นส่วนรถยนต์ นี่ถ้ามาเยอะๆไม่เรียกเป็นฝูงเลยเหรอ
        ดังนั้นเวลาไปบรรยายธรรมให้นักเรียนฟังอาตมาจะนำเรื่องนี้ไปสอดแทรกเพื่อสอน
 เด็กๆ ด้วย
        ' ถ้าพระกิน   เรียกว่า   ฉัน'
        ' พระนอน เรียกว่า จำวัด' ( บางคนเรียกขี้เกียจเป็นพระนอนไม่ได้)
        ' พระป่วย เรียกว่า อาพาธ'
        ' พระตาย   เรียกว่า มรณภาพ' (ไม่ใช่เรียกป่อเต็กตึ๊งนะ)
        ' แล้วพระอาบน้ำล่ะ เรียกว่าอะไรเอ่ย'   คราวนี้อาตมาถามให้เด็กๆ ตอบบ้าง
        ' เรียกคนมาดู'
        --------- จบกัน  ----------------
 
 


Enrich your blog with Windows Live Writer. Windows Live Writer


--
คนขยันคือคนที่โชคดี
ความขยันจึงเป็นพรอันประเสริฐ
--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
****  รู้จักขอบคุณเมื่อได้รับ   ขออภัยเมื่อผิดพลาด  คือสิ่งที่สมาชิกกลุ่มพึงกระทำ  ****
กติกา  ง่ายๆ ในกลุ่ม
0. ห้ามโพสเรื่องการเมือง หรือถกเถียงเรื่องการเมืองที่จะก่อความวุ่นวายภายในกลุ่ม
     ฝ่าฝืนแบนทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบ  
1. ห้ามโพสรูปภาพหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสื่อมเสีย
2. ห้ามใช้วาจาหยาบคาย  ห้ามบ่นว่าเมล์ หรือ reply เยอะ  
3. ห้ามโฆษณาที่หวังผลประโยชน์ทางการค้า  ใครโพสแบนทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบ
4.  ไม่ได้รับเมล์อีก(กรุณาอ่านด้วย) http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nulex&group=1
5. กรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
6. ห้ามส่ง Invite เวปบิทเข้ากรุ๊ปโดยเด็ดขาด

 - ส่งเมล์เข้ากลุ่มได้ที่   nulex@googlegroups.com  
 - สมัครรับเมล์-ส่งเมล์เปล่ามาที่   nulex-subscribe@googlegroups.com
 - ลาออกจากกลุ่ม-ส่งเมล์เปล่ามาที่   nulex-unsubscribe@googlegroups.com
 * ทั้งสมัครและลาออก  ต้องยืนยันลิงค์จากระบบทุกครั้ง  

อย่าลืมนะคะ มีอะไรก็แบ่งปัน
    ^ นู๋เล็ก ^  
Group's Owner
(-`๏'•ิ__•ิ`๏'-)
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

ไม่มีความคิดเห็น: