วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551

[nulex] Re: ขออาลัยกับการจากไปของ ปู่เย็น

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

เมื่อ ตุลาคม 12, 2008 3:46 หลังเที่ยง, คลื่นลม <nooparn@gmail.com> เขียนว่า:
เศร้าจัง เสียใจด้วยค่ะ

2008/10/12 รัชดาพร พัดมณีรัตน์ <lensst1982@gmail.com>

ขอแสดงความเสียใจด้วยคะขอให้ปู่มีความสุขบนสวรรค์นะคะ

เมื่อ 10/12/08, ao pumba <aoblackcoffee@gmail.com> เขียนว่า:
คนดีๆมาเสียไปเสียดายความเข้าใจชีวิตที่ปู่คิดไว้......ถ้าพวกนักการเมืองคิดได้เท่าแกซัก5%ประเทศชาติมันคงไม่เปนแบบนี้หรอกเนอะ
ทำไมพวกมันตายยากจัง.....ขอให้ปู่เย็นไปสู่ภพที่ดีกว่านี้นะครับ

 
เมื่อ 10/12/08, air <kumlungkeng@gmail.com> เขียนว่า:
เสียใจครับ....ชีวิตที่แฝงด้วยปรัชญา ของปู่เย็นน่าสนใจมากทุกคนลองศึกษาดูนะครับ

เมื่อ ตุลาคม 12, 2008 11:13 ก่อนเที่ยง, ღ นู๋ขวัญ ღ <kvonkvon@gmail.com> เขียนว่า:

ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ

เมื่อ 10/12/08, :) ด.ช.แดง นามสกุล.มาครับผม <keyherat@gmail.com> เขียนว่า:
ได้เสียชีวิตแล้ว ตอนสายวันอาทิตย์ที่12ตค.51นี้ ปู่เย็นอายุ108ปี
ปู่เย็น แบบอย่างของคนรุ่นหลัง

"ดูแต่หอยซิ  ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเองได้  ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า  หากินเองไม่ได้ก็อายหอย"
             
              ถ้อยความสั้นๆ  จากหนังสือ  ฅ  คน  แสดงความเป็นตัวตนอย่างชัดเจนของ  "ปู่เย็น"  เฒ่าทระนงวัย  106  ปี  ที่นอกจากจะเป็นขวัญใจมหาชนแล้ว  ปู่เย็นยังเป็นกำลังใจในการสู้ชีวิตให้แก่หลายๆ  คน  ท่ามกลางสังคมที่ผุกร่อน
             
              มาวันนี้ปู่เย็นมีบทบาทใหม่เพิ่มเติมมานั่นก็คือ  การได้รับเกียรติให้เป็น  "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยว"  ของจังหวัดเพชรบุรี  ที่แม้กระทั่งปู่เย็นเองก็ยังไม่รู้ว่า  "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยว"  คืออะไร???
             
              ดังกว่าดารา
             
              หลังรายการ  "คนค้นฅน"  นำเสนอเรื่องราวของ  "ปู่เย็น"  เฒ่าทระนง  ไปในคืนวันอังคารที่  22  กุมภาพันธ์  2548  และอีก  2  ตอนต่อมา
             
              ชื่อของผู้เฒ่าแห่งลุ่มน้ำเพชรได้กลายเป็นที่รู้จักทันทีด้วยวิถีปฏิบัติที่เรียบง่าย  พอเพียง  และทระนง  จากชายชราที่รอวันสังขารร่วงโรย  ปู่กลายเป็นที่สนใจของคนมากมายจะเป็นด้วยกระแสหรือความเมตตาก็สุดจะหยั่ง  มีคนมากมายจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมชนิดที่หัวกระไดสะพานลำไยที่ปู่อยู่ไม่เคยแห้ง
             
              ปู่เย็นกลายเป็นขวัญใจมหาชนคนใหม่  จนทางรายการคนค้นฅนต้องนำเรื่องราวของปู่เย็นมานำเสนออีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม
             
              ทั้งนี้  ตามประวัติของปู่เย็นที่ผ่านการนำเสนอจากรายการคนค้นฅนและหนังสือ  ฅ  คน  ฉบับปฐมฤกษ์  ระบุไว้ว่า  ปู่เย็นเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด  มีชื่อจริงคือ  "นายเย็น  แก้วมะณี"  มีที่อยู่อาศัยตามทะเบียนราษฎรคือ  274/4  ถ.มาตยาวงศ์  ต.ท่าราบ  อ.เมืองเพชรบุรี  อดีตมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว  ปัจจุบันปู่เย็นมีอายุ  106  ปี  (ตามที่ระบุผ่านสื่อต่างๆ)  อาศัยอยู่ในเรือลำน้อยใต้สะพานลำไยแห่งลำน้ำเพชร
             
              ปู่เป็นชาวมุสลิม  แต่มีภรรยาเป็นไทยพุทธ  ชื่อ"ย่าเอิบ"  ที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเปลี่ยนศาสนา  แต่ว่าก็ใช้ชีวิตเคียงคู่กันไปตลอดชีวิต
             
              ปู่เย็นไม่มีลูกเพราะปู่เป็นหมัน  จะมีก็แต่ลูกสาวบุญธรรม  2  คนเท่านั้น  ซึ่งเมื่อเติบใหญ่ก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตน  ชีวิตบั้นปลายของชายชราอย่างปู่คงจะมีความสุขในบ้านเช่าหลังเล็กๆ  ทว่าเมื่อวันที่  16  มีนาคม  2536  ย่าเอิบก็มาด่วนหนีโลกเบี้ยวๆไปเสียก่อน  ตอนอายุ  94  ปี  ปู่ร้องไห้ต่อการจากไปของย่ากว่า  3  เดือน
             
              เมื่อไม่มีย่าปู่ก็ไม่รู้จะเสียเงินค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าเช่าบ้านอีกทำไมเดือนละแปดร้อยบาท  ปู่จึงขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นในชีวิตมาอยู่บ้านหลังใหม่  ไม่มีเสา  ไม่มีหลังคา  บ้านของปู่เป็นเพียงเรือลำเล็กๆ  ลอยอยู่ในลำน้ำเพชร  จากวันนั้นถึงวันนี้  ปู่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือนับ  10  ปี  เลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา  เหลือกินก็ขายถูกๆ  ไม่ต้องมีตาชั่ง  20-30  บาทปู่ก็ขายแลกเงินประทังชีพ  แต่ถ้าใครเอาเงินให้ฟรีๆ  ปู่จะโกรธไม่รับเงิน
             
              "กินฟรีได้  แต่ไม่อยากกิน  เกรงใจ  ไม่เอา  อาย  ของซื้อของขาย  ไหนต้องตักไหนต้องล้าง"  ปู่เย็นว่าไว้อย่างนั้น  (จากหนังสือ  ฅ  คน)
             
              เมื่อละครชีวิตของปู่เย็นถ่ายทอดสู่สายตาประชาชนจากรายการคนค้นฅน  ก็ดูเหมือนว่าโลกที่เคยลืมเลือนปู่เย็นไป  กลับพลิกผันจดจำปู่ได้ในทันที  จากที่เคยโดดเดี่ยว  ปู่เย็นกลายเป็นคนดังที่ชีวิตไม่เงียบเหงาอีกต่อไปเพราะในยุคนั้นที่ผู้นำไร้จริยธรรม  สังคมไทยผุกร่อน  เน้นวัตถุและเม็ดเงินเป็นใหญ่
             
              เมื่อมีคนอย่างปู่เย็นปรากฏต่อสายตาสาธารณะชน  ด้วยภาพของชายชราตัวงองุ้ม  ศีรษะโพกผ้าสะระบั่นเพื่อยืนยันความเป็นมุสลิม  ชอบนั่งหัวเราะอ้าปากหวอ  กระดูกไม่ดี  เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยหอบ  ผิวหนังเหี่ยวย่น  ใช้เหงือกแทนฟันในการบดข้าว  แต่ว่าก็มีความเด็ดเดี่ยวและทระนงอยู่ในตัวตน  หลายๆ  คนจึงเทใจยกให้ปู่เย็น  เฒ่าทระนง  เป็นฮีโร่ไปโดยปริยาย
             
              บทบาทใหม่
             
              วันที่  23  มีนาคม  2548  ปู่เย็นได้เข้ารับเรือพระราชทานต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์  พระบรมราชินีนาถ  ที่จัดขึ้นบริเวณท่าน้ำหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด  เพื่อรับพระราชทานเรือพระราชทานที่เป็นฝีมือการออกแบบของวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา  เป็นเรือกว้าง  1  เมตร  ยาว  6  เมตร  มีประทุนหลังคากันแดดกันฝน  ด้านครึ่งเรือตอนท้ายจะมีผ้ามุ้งสำหรับกันยุง  สำหรับตัวเรือจะเป็นเนื้อไฟเบอร์กลาสตลอดทั้งลำ  มีน้ำหนักเบาสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำตื้นได้  สร้างความตื้นตันใจแก่ปู่คณานับ
             
              นอกจากนี้ทางจังหวัดเพชรบุรีได้คัดเลือกให้ปู่เป็นผู้สูงอายุดีเด่นประจำปี  48  รวมถึงได้มอบบทบาทใหม่อย่างเป็นทางการให้ปู่เย็นเมื่อวันอาทิตย์ที่  10  ธันวาคม  2549  นั่นก็คือ  การเป็น  "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี"  ที่หากใครผ่านไปเพชรบุรีก็จะเห็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีทั้งรูปสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของจังหวัดอย่าง  "เขาวัง"  ที่เยื้องมาทางมุมซ้ายมีรูปผู้ว่าราชการจังหวัดกำลังปีนต้นตาล  และที่มุมซ้ายสุดมีรูปปู่เย็นหัวเราะอ้าปากหวอ  ก็ไม่ต้องแปลกใจไป  เพราะนั่นคือบทบาทใหม่ของปู่เย็นที่ทางจังหวัดเพชรบุรีมอบให้
             
              "การนำปู่เย็นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นเพราะเรามองว่าในด้านของการตลาดว่า  ควรจะหาบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมสูงซึ่งตรงกับลักษณะของปู่เย็นพอดี  ปู่เป็นคนเพชรบุรีโดยกำเนิด  หลังจากรายการคนค้นฅน  นำเสนอเรื่องราวชีวิตของปู่ก็เป็นที่น่าสนใจและควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อคนทั่วไป  จึงเหมาะต่อการเป็นภาพลักษณ์ของเมืองเพชร"  สยุมพร  ลิ่มไทย  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี  แสดงความเห็นต่อการคัดเลือกปู่เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ทางการท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัด
             
              นอกจากนี้  พ่อเมืองเพชรบุรียังให้เหตุผลถึงการเลือกพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ว่า  ปู่เย็นเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมสูง  และก่อนที่จะเจาะจงคัดเลือกปู่นั้นทางจังหวัดมีการสอบถามถึงความสมัครใจให้ปู่ทราบแล้วว่าปู่ยินดีหรือไม่  ซึ่งปู่ก็เข้าใจและยินดีที่จะช่วยเหลือทางจังหวัด  เมื่อทางจังหวัดมีกิจกรรมอะไรก็จะเชิญปู่เย็นมาเพื่อร่วมประชาสัมพันธ์ออกงานกับทางจังหวัด  หรือเมื่อใครมาเที่ยวแล้วต้องการไปเยี่ยมปู่ที่เรือก็สามารถทำได้
             
              เป็นอันว่าการเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ปู่รับด้วยความสมัครใจ  แม้ว่าปู่จะไม่รู้ว่าพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวคืออะไรก็ตาม
             
              ในขณะที่ใครหลายๆ  คนก็ออกจะหวั่นใจกับบทบาทใหม่ของปู่เย็นอยู่ไม่ได้  เพราะด้วยความเป็นห่วงปู่  เกรงว่าปู่จะเหนื่อยต่อการวิ่งรอกออกงานโน้นงานนี้  ซึ่ง  เกียรติศักดิ์  กล่อมสกุล  ที่นอกจากจะคอยดูแลปู่เย็นแล้ว  ยังรับหน้าที่เป็นสารถีส่วนตัวคอยรับส่งปู่เย็นไปตามที่ต่างๆ  กล่าวว่า
             
              "จริงๆ  แล้วปู่เย็นก็ใช้ชีวิตประจำวันไปตามปกติของปู่นั่นแหละ  สมมติว่ามีงานแถลงข่าวที่อยู่ในละแวกเมืองเพชรไม่ต้องเดินทางไกล  ผมก็มารับปู่ไปเอง  และจะบอกแกว่า  "มารับปู่ไปเที่ยว"  ซึ่งแกก็ชอบ  เพราะถือเป็นการไปเปิดหูเปิดตา  ส่วนการที่มีคนมาขอถ่ายรูปมานั่งคุยด้วย  ผมมองว่ามันไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแกเท่าไหร่หรอก  เพราะที่ผ่านมา  (หลังออกรายการคนค้นฅน)  ก็มีคนมาหาแกเป็นประจำอยู่แล้ว
             
              "สำหรับนักท่องเที่ยวถือว่าปู่เย็นไปสร้างสีสันให้กับงาน  แต่สำหรับปู่แล้วถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับแก  เพราะปู่เป็นคนชอบไปโน่นไปนี่  แต่เดี๋ยวนี้แกจะไปไหนคนเดียวก็ไม่ไหวแล้ว  ขี่จักรยานก็ไม่ไหว  จะพายเรือน้ำเพชรมันก็น้อย  ไปไหนได้ไม่ไกล  นอกจากหาปลาได้แถวสะพานลำไย"  เกียรติศักดิ์กล่าวในฐานะคนคุ้นเคยกับปู่เย็นเป็นอย่างดี
             
              ในขณะที่  สุทธิพงษ์  ธรรมวุฒิ  ผู้ดำเนินรายการ  คนค้นฅน  คนคุ้นเคยกับปู่เย็นอีกคนหนึ่ง  อดที่จะแสดงความห่วงใยต่อปู่เย็นไม่ได้  เพราะวันนี้สังขารของปู่เย็นร่วงโรยไปมากแล้ว
             
              "วิถีชีวิตของปู่เย็นเราอย่าไปมองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา  เพราะว่าในความเป็นจริงมันก็มีเหตุผลความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ปู่ต้องอยู่แบบนั้น  สมมติว่ามันมีตัวแปรอื่นที่ทำให้ปู่ต้องมีโอกาสในชีวิตมากกว่าที่เคยเป็นแล้วไม่ได้มาบังคับแก  แต่เป็นกิจกรรมที่แกร่วมด้วยความสมัครใจก็เป็นการดี  แต่มันมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง  นั่นก็คือ  ปู่อายุเยอะแล้ว  สุขภาพของปู่ล่าสุดทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด  แล้วปู่เป็นคนที่คงเส้นคงวาในเรื่องของการสูบบุหรี่มาก  การที่นำปู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ย่อมที่จะมีผลกระทบบ้าง  แต่เท่าที่รู้จักปู่เย็นถ้าสมมติว่าห้วงเวลาที่เหลือปู่ได้มีกิจกรรมที่ปู่ร่วมแล้วสนุกด้วยแกก็คงอยากไป  ถ้าแกไม่เต็มใจไปก็คงไม่ไป"
             
              "สำหรับการที่นำปู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดนั้นผมมองว่ามันก็เท่านั้นแหละ  เพราะว่าปู่แกจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว  ปู่มีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าโลกนี้มันมีการทำมาหากินเอาเงินเข้าประเทศจากธุรกิจท่องเที่ยว  ปู่ไม่รู้เรื่องตรงนั้นเลย  แต่ว่าสิ่งที่มันพอจะหยิบชูขึ้นมาให้คนเห็นก็เพียงแค่ให้คนไปเที่ยวเห็นว่าไปเที่ยวเพชรบุรีเพราะเพชรบุรีมีปู่เย็น  ไปดูเหมือนไปดูของแปลกหรือไปดูความประทับใจก็แล้วแต่  ไม่มีใครสามารถเอาปู่ไปทำอะไรได้มากกว่าเอาปู่ไปโฆษณา"
             
              สุทธิพงษ์  แสดงความคิดเห็น  พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า
             
              "คนที่พาปู่ไปต้องใส่ใจในรายละเอียด  ต้องดูแลได้  ถ้าดูแลไม่ดีปู่ทุกข์ทรมานแล้วไม่มีใครคอยใส่ใจจากความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นบาปทั้งขึ้นทั้งล่องเสียเปล่าๆ  ถ้าชีวิตของคนคนหนึ่งทำประโยชน์ไม่ว่าจะในแง่ไหนให้แกผืนแผ่นดินที่ตัวเองอยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี  แต่การที่คิดจะเอาปู่ไปใช้ในเรื่องของผลประโยชน์ก็คงต้องมีบ้าง  แต่ต้องระวังรัดกุมให้มากๆ"
             
              ผู้เฒ่าที่ใครๆ  ก็รัก
             
              หลังโด่งดังจากรายการคนค้นฅน  ปู่เย็นก็มีคนห่วงใยมากมายจากทั่วประเทศ  โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกขานตัวเองว่า  "แก๊งค์คนรักปู่เย็น"  ที่มีทั้งใกล้และไกล  ซึ่งถ้ามีโอกาสผ่านไปทางเมืองเพชรบุคคลเหล่านี้ก็จะแวะเวียนเยี่ยมเยียนปู่ของพวกเขาอยู่เป็นประจำ
             
              "เกรงใจมาทำไมไกลๆ"  ปู่เย็นมักจะบอกอย่างนี้เป็นประจำกับคนเดินทางไปเยี่ยมเยียน
             
              นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จังหวัดเพชรบุรีเลือกปู่เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของจังหวัด  ซึ่งเกียรติศักดิ์กล่าวว่า  การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทางจังหวัดครั้งนี้ก็เป็นเพราะกระแสคนรักปู่เย็น  ไปไหนใครๆก็ถามถึงว่าปู่ยังสบายดีไหม  อยากมาหาปู่  ทางจังหวัดคงเห็นความสำคัญตรงนี้  เท่าที่ทราบมาก็เห็นว่าทางจังหวัดเขาจะมีเงินเดือนให้แต่จะให้ยังไงก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเพราะไม่ได้คิดจริงจังตรงจุดนี้  และตนก็ไม่คิดว่าสำหรับปู่เรื่องเงินจะเป็นเรื่องใหญ่  ช่วงที่ออกคนค้นฅนใหม่ๆ  ปู่เคยลองใช้เงินซื้อรถกระบะ  ซื้อจักรยานไฟฟ้า  แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในเรือเหมือนเดิม  ฉะนั้นปู่จะได้รับเงินเดือนหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
             
              ส่วนปู่เย็นเองก็กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า  ไม่ได้คิดอะไร  ตอนนี้ปู่ดีใจที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยเมืองเพชรที่ปู่เกิด  ปู่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีแล้ว  แต่หากใครไปถามปู่เย็นว่า  ทางจังหวัดเพชรบุรีได้ให้เงินเดือนปู่เย็นหรือเปล่า  ก็จะได้รับคำตอบว่า
             
              "ไม่เอาง่ะ  เกรงใจมัน"
             
              สั้นๆ  ง่ายๆ  แต่เด็ดเดี่ยวและแสดงความเป็นตัวตนในปู่เย็นมาอย่างชัดเจน  ซึ่งความเป็นตัวตนของปู่เย็นนั้น  สุทธิพงษ์ได้เล่าเพิ่มเติมว่า  ปู่เย็นเคยป่วยเป็นฝีที่มือ  ซึ่งใครมาพาไปผ่าก็ไม่ยอมไป  ขนาดผู้ว่าฯมาพาไปปู่ก็ไม่ยอม  ปู่เย็นป่วยจนกระทั่งทนไม่ไหว  จนทางโรงพยาบาลต้องมาอุ้มไปผ่าฝีออกถึงค่อยยัง***ขึ้น
             
              "ปู่ให้เหตุผลในการไม่ยอมไปผ่าฝีชนิดที่ใครได้ยินได้ฟังเป็นต้องหัวร่องอหายโกรธแกไม่ลงว่า  "มีคนมาขโมยดูดเลือดแกไปขาย"ซึ่งคงจะหมายถึงการที่หมอหรือพยาบาลเจาะเลือดปู่ไปตรวจนั่นเอง  เราจะเห็นว่าบางอย่างปู่เย็นก็ยังเป็นปู่เย็นที่มักจะคิดอะไรไปเอง  ใครจะพูดอะไรแกก็ไม่เชื่อ  บนความปรารถนาดีของคนโน้นคนนี้  ปู่อายุมากแล้วคนอายุประมาณนั้นย่อมจะคิดไม่เหมือนกับคนอายุเท่าๆ  เรา
             
              สุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปู่เย็นไม่ชอบให้ใครสงสารปู่  แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น  แต่ขณะนี้ปู่ก็ปฏิเสธน้ำใจที่ไหลมาพร้อมชื่อเสียงไม่ได้  ซึ่ง  ณ  วันนี้ไม่ว่าปู่จะขยับไปไหนไม่ต้องเกรงว่าปู่จะโดดเดี่ยว  ปู่จะไม่มีใคร  เพราะว่ามันมีมามาก  และหากแกเป็นอะไรไปแล้วไม่มีใครเข้าไปดูแลก็อาจจะโดนสังคมต่อว่าต่อขาน  มันมีมิติของความเป็นจริงอยู่  เรื่องนี้แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว
             
              นอกจากนี้  สุทธิพงษ์ยังอยากให้สังคมมองชีวิตปู่เย็นในทางมรณานุสติ  เพราะมันเป็นความจริงของชีวิต  ซึ่งการที่ปู่เย็นเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เพราะปู่เย็นเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจชีวิต  และใช้ชีวิตอย่างนิ่ง  รออย่างสงบ  คงจะเหมือนดังปรัชญาชีวิตง่ายๆของปู่เย็นที่ว่า
             
              "ชีวิตคนเหมือนสะพาน  มีขึ้น  มีลง  มีสูง  มีต่ำ  พอสุดท้าย  ก็ตาย"


--
ฉันเป็นคนมั่งมี ไม่ใช่เพราะฉันมีมากมาย แต่เป็นเพราะว่าฉันมีมากพอ ***
จงอย่าพยายามเป็นขี้ตะใคร่น้ำใต้ท้องเรือ... ต่อหน้าไหว้..ลับหลังนิทา ... ***
อันความโง่ความฉลาดควรมีครบ... โอบแขนนบรับไว้อย่างหน่ายหนี ถึงจะโง่ขอให้โง่แบบรู้ที่...
ครั้นฉลาดพาทีควรรู้กาลฯ *** ปากดีสร้างมิตร ความคิดไม่ตรงกันสร้างศัตรู
ถ้าท่านอยากรู้ว่ามิตรภาพมีค่าขนาดไหน ก็ลองเสียเพื่อนไปสักคนชิ.. เวลาโกรธกันอย่าโกรธเต็มที่
เหลือไว้ดีกันบ้างก็ได้ :) ***




--
εїз ~~ ღ ~~♂~~ ღ ~~ εїз แวะทักทายกันได้นะค้ะ
http://kukvon.hi5.com "ความรักทำให้คนตาบอด" ฉันไม่เชื่อหรอก แต่...ใครๆ มักว่าฉัน
ว่าชอบตาบอดเพราะความรัก ป่าวนะ...ฉันก็แค่หลับตาลง ไม่ได้ใช้ตามองความรัก
แต่...ฉันใช้หัวใจมองมันต่างหาก

 



--
♪♪ คงมีใครคนนึง ที่อยู่ที่ไหนสักแห่ง
ที่จะยอมรับทุกอย่าง เข้าใจชีวิตที่ฉันเป็น
ก็คงมีใครคนนึง ที่ยอมเป็นทุกๆอย่าง
จะอยู่เคียงข้างไม่ห่าง ก้อได้แต่หวัง
........... คงไม่นานสักวันคงเจอ ♫♫
  ( 'o' )      ♪  a  ♪  i  ♪  r  ♪     o(‧""‧)o









--
^-^



--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
****  รู้จักขอบคุณเมื่อได้รับ   ขออภัยเมื่อผิดพลาด  คือสิ่งที่สมาชิกกลุ่มพึงกระทำ  ****
กติกา  ง่ายๆ ในกลุ่ม
0. ห้ามโพสเรื่องการเมือง หรือถกเถียงเรื่องการเมืองที่จะก่อความวุ่นวายภายในกลุ่ม
     ฝ่าฝืนแบนทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบ  
1. ห้ามโพสรูปภาพหรือข้อความที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางเสื่อมเสีย
2. ห้ามใช้วาจาหยาบคาย  ห้ามบ่นว่าเมล์ หรือ reply เยอะ  
3. ห้ามโฆษณาที่หวังผลประโยชน์ทางการค้า  ใครโพสแบนทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบ
4.  ไม่ได้รับเมล์อีก(กรุณาอ่านด้วย) http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=nulex&group=1
5. กรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
6. ห้ามส่ง Invite เวปบิทเข้ากรุ๊ปโดยเด็ดขาด

 - ส่งเมล์เข้ากลุ่มได้ที่   nulex@googlegroups.com  
 - สมัครรับเมล์-ส่งเมล์เปล่ามาที่   nulex-subscribe@googlegroups.com
 - ลาออกจากกลุ่ม-ส่งเมล์เปล่ามาที่   nulex-unsubscribe@googlegroups.com
 * ทั้งสมัครและลาออก  ต้องยืนยันลิงค์จากระบบทุกครั้ง  

อย่าลืมนะคะ มีอะไรก็แบ่งปัน
    ^ นู๋เล็ก ^  
Group's Owner
(-`๏'•ิ__•ิ`๏'-)
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

ไม่มีความคิดเห็น: