วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Re: [SIAMHRM.COM :31279] ห้ามพนักงานประกอบธุรกิจนอกเวลางาน ทำได้หรือไม่ครับ???

ยังตอบได้ประทับใจเหมือนเดิมน่ะคร๊าบบบ..
ป๋าสบายดีเปล่าครับ..คิดถึงป๋าคร๊าบบ............

เมื่อ 14/12/2553, adisorn klinpikul <adisorn_pers@hotmail.com> เขียนว่า:
>
> สวัสดีครับ อดิศร ครับ
> กรณีนี้ให้กำชับผู้บังคับบัญชาที่อนุญาตให้ลากิจไปนะครับ
> เพราะกรณีลากิจนายจ้างมีอำนาจที่จะไม่อนุญาตได้
> ยกเว้นว่าเป็นกิจธุระอันจำเป็นจริง ๆ
> ซึ่งพฤติกรรมของพนักงานคนนี้ที่ลากิจไปถึงแม้จะอ้างว่ามีความจำเป็น
> แต่การที่ลาไปทำงานกับบริษัทอื่นก็ไม่ถูกต้องครับ
> และเข้าข่ายที่เอาเปรียบนายจ้างครับ
> ซึ่งอาจทำให้ธุรกิจนายจ้างเสียหายได้ด้วย
> นอกจากนี้หากระเบียบของนายจ้าง
> กำหนดให้จ่ายค่าจ้างในวันลากิจให้แก่ลูกจ้างด้วยแล้ว
> นายจ้างมีสิทธิเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่จ่ายค่าชดเชยครับ
> เพราะเข้าข่ายการกระทำอันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์อันมิควรได้
> หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามมาตรา 119 ครับ
> ในทางคดีแล้ว หากนายจ้างได้อนุญาตให้ลากิจไป นายจ้างจะเสียเปรียบได้ครับ
> ต่อไปให้ผู้บังคับบัญชาเข้มงวดเรื่องนี้มากขึ้นนะครับ
>
>
> ส่วนลาพักร้อนนั้น ตามกฎหมายคือวันหยุด ไม่ใช่วันลา
> ที่เรียกว่าวันหยุดพักผ่อนประจำปี ตามมาตรา 30 ครับ
> นายจ้างมีสิทธิที่กำหนดให้ลูกจ้างหยุดพักผ่อนประจำปีวันไหนก็ได้
> หรือนายจ้างกับลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าว่าจะหยุดวันไหนก็ได้ครับ
> แต่ไม่ใช่ให้ลูกจ้างมาขอลา
> ซึ่งเมื่อลูกจ้างได้หยุดไปตามสิทธิที่ตกลงกันกับนายจ้างไว้แล้ว
> เค้าจะไปทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าไปทำงานอื่นที่ทำให้เกิดความเสียหายกับนายจ้าง
> นายจ้างก็อาจพิจารณาโทษได้เช่นกันครับ เพราะวันหยุดพักผ่อนประจำปี
> นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างตามมาตรา 56 ให้ด้วย
> อย่างนี้ลูกจ้างก็อาจเข้าข่ายแสวงหาผลประโยชน์อันมีควรได้เช่นกันครับ
> กรณีนี้นายจ้างต้องไปแก้ไขเอกสารทั้งหมด
> รวมทั้งระเบียบของวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้ถูกต้องตามกฎหมายครับ
> ห้ามใช้คำว่าลาพักร้อนเด็ดขาด
> เพราะไปสู้ทางคดีแล้ว จะเป็นโมฆะได้ครับ
>
> ขอแนะนำในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กรณีนี้คือ
> เรียกพนักงานมาตักเตือนด้วยวาจาไปก่อนครับ
> อธิบายให้เค้าเข้าใจว่าการกระทำอย่างนี้ทำให้นายจ้างเสียหาย
> เพราะแทนที่จะทำงานให้นายจ้างได้เต็มที่ แต่กลับต้องลากิจไปทำงานให้บริษัทอื่น
> ซึงไม่เหมาะสมครับ และบอกไปด้วยว่า ถ้าเป็นกรณีลาไปทำงานอื่นอย่างนี้อีก
> คราวต่อไป จะไม่อนุญาต
> อธิบายให้ครอบคลุมไปถึงโทษที่เค้าจะได้รับหากยังฝ่าฝืนเช่นนี้อีกด้วยครับ
> หากพนักงานเชื่อฟังดี ก็จบครับ แต่หากยังมีพฤติการณ์เช่นเดิมอีก
> ก็ต้องตักเตือนเป็นหนังสือ และหากยังฝ่าฝืนซ้ำอีก ภายในระยะเวลา 1 ปี
> นับแต่วันที่กระทำผิดและได้รับหนังสือเตือนไปแล้ว
> ก็เลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่จ่ายค่าชดเชยครับ
>
> นอกจากนี้หากยังไม่มีระเบียบเรื่องนี้กำหนดไว้ในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน
> ก็ควรเขียนเพิ่มเติมขึ้นมาให้ครอบคลุม
> และส่งให้พนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
> รับทราบ แล้วก็ประกาศใช้ระเบียบนี้ให้พนักงานทุกคนทราบโดยทั่วกันครับ
> ต่อไปจะได้ชัดเจนมากขึ้น
> อดิศร
>
>
> From: wichean.moo@hotmail.com
> To: adisorn_pers@hotmail.com
> Subject: RE: [SIAMHRM.COM :31248] ห้ามพนักงานประกอบธุรกิจนอกเวลางาน
> ทำได้หรือไม่ครับ???
> Date: Mon, 13 Dec 2010 17:27:13 +0700
>
>
>
>
> สวัสดีครับ อ.อดิศร ขอแชร์ข้อมูลด้วยครับ พอดีที่บริษัทมีเหตุการณ์คล้ายแบบนี้
> คือพนักงานใช้เวลาออกไปทำงานข้างนอก(งานลักษณะเดียวกับบริษัท)
> แต่จะลาไปเช่น ลากิจ(เขียนในใบลาว่าทำธุระส่วนตัว),ลาพักร้อน
> แต่ตัวเองไปทำงานกับบริษัทนี้ โดยที่วันลาเป็นวันทำงาน
> อย่างนี้บริษัทลงโทษพนักงาน
> ได้หรือไม่ครับ
>
> Sam
>
>
>
> From: adisorn_pers@hotmail.com
> To: james.bodin0206@yahoo.co.th; lovelyhrs@googlegroups.com;
> siamhrm@googlegroups.com
> Subject: RE: [SIAMHRM.COM :31248] ห้ามพนักงานประกอบธุรกิจนอกเวลางาน
> ทำได้หรือไม่ครับ???
> Date: Mon, 13 Dec 2010 12:56:57 +0700
>
>
>
> สวัสดีครับ อดิศร ครับ
>
> ข้อที่ 1. นายจ้างจะออกระเบียบอย่างนี้มาก็ได้ครับ
> และถ้าลูกจ้างยินยอมลงนามในสัญญา ก็จะทำให้สัญญานั้นมีผลใช้บังคับได้เช่นกัน
> เพราะนายจ้างอาจจะมีเหตุผลที่สมควรแก่เหตุในการทำสัญญาเป็นข้อกำหนดในการว่างจ้างลูกจ้างอย่างนี้ก็ได้
> ขึ้นอยู่กับเหตุผลหรือเจตนารมณ์ของนายจ้าง
> ว่าสมควรแก่เหตุหรือไม่ และลูกจ้างมีปัญหาในการทำงานกับนายจ้างหรือไม่
> แต่ทั้งนี้หากเหตุผลนายจ้างไม่เพียงพอ หรือไม่มีเหตุผลอันควร
> และลูกจ้างไม่ยินยอม ลูกจ้างก็อาจไม่ลงนามในสัญญาก็ได้
> ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกจ้างเช่นกันครับ
> นายจ้างจะไปบังคับก็ไม่ได้ครับ
> สัญญาจ้างนั้นจะต้องตกลงยินยอมด้วยกันทั้งสองฝ่าย หรือหากลูกจ้างไม่เห็นด้วย
> อาจจะยอมลงนาม ( โดยนายจ้างบังคับ ) หรือไม่ยอมลงนามก็แล้วแต่
> ฝ่ายลูกจ้างก็ไปร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน ในมาตรา 14/1
> เพื่อให้ศาลบังคับนายจ้างให้ยกเลิกสัญญาที่ไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้างได้ครับ
> ประเด็นนี้นายจ้างน่าจะเสียเปรียบครับ
> เพราะดูแล้วไม่เป็นธรรมและอาจเข้าข่ายไปละเมิดสิทธิในการประกอบอาชีพอื่น ๆ
> ของลูกจ้างได้ครับ
> ลูกจ้างย่อมมีสิทธิส่วนบุคคลที่จะประกอบอาชีพเสริมได้
> หากว่าไม่เป็นการเบียดบังเวลาทำงานของนายจ้างหรือไม่เป็นอาชีพที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของนายจ้างครับ
> ระเบียบที่ถูกต้องและเป็นธรรมด้วยกันทั้งสองฝ่าย น่าจะออกมาว่า
> ห้ามลูกจ้างใช้เวลาทำงานของนายจ้างไปประกอบอาชีพส่วนตัวหรืออาชีพอื่นใดที่ทำให้ธุรกิจนายจ้างเสียหายมากกว่าครับ
> ส่วนนอกเวลางานไม่ควรไปบังคับ
>
> ข้อที่ 2.
> นายจ้างจะออกประกาศให้พนักงานแจ้งเรื่องการประกอบอาชีพอะไรอยู่บ้างก็ได้ครับ
> แต่ขึ้นอยู่กับว่านายจ้างเอาข้อมูลที่ได้มาทำอะไร
> ถ้าทำแล้วเป็นคุณต่อลูกจ้างก็ไม่มีปัญหา
> แต่ถ้าทำแล้วเป็นโทษต่อลูกจ้างก็ไม่ได้ครับ
> ยกเว้นว่าอาชีพหรือกิจกรรมนั้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของนายจ้าง
> นายจ้างก็อาจสั่งห้ามได้ ถ้าฝ่าฝืนก็ควรใช้กระบวนการพิจารณาทางวินัยเป็นราย ๆ
> ไป จึงจะสามารถแก้ปญหาได้แม่นยำและรวดเร็ว
> แต่ถ้าจะเอาไปประกอบผลการพิจารณาเงินเดือนหรือโบนัส
> ไม่เหมาะสมในแง่การบริหารงานบุคคลอย่างยิ่งครับ
> การประเมินผลหรือการบริหารผลงานก็ต้องมาดูในประเด็นของผลงาน
> ถ้าใครมีผลงานดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
> บางคนอาจทำธุรกิจส่วนตัวของเค้า ซึ่งไม่กระทบให้นายจ้างเสียหายอะไร
> และเค้ามีผลงานดีด้วย ก็ต้องให้เค้าไปตามผลที่ออกมาอย่างเป็นธรรมครับ
> ถ้าเอาเกณฑ์อย่างนี้มาคิดด้วย ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย
> องค์กรนั่นล่ะครับที่จะเสียหาย
> เพราะทำให้ลูกจ้างไม่ได้รับความเป็นธรรมกับนายที่ทำให้นายจ้างอยู่
> การบริหารผลงานหรือการประมินผลงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในองค์กรนั้น
> หลักการแล้วมีวตถุประสงค์เพื่อนำผลที่ได้มาปรับปรุงพัฒนาศักยภาพของบุคลากรเป็นอันดับแรก
> ใครมีจุดแข็งอะไรก็ต้องนำมาวิเคราะห์
> เพื่อพัฒนาจุดแข้งของเค้าให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด
> หรือหากใครมีจุดอ่อนเรื่องอะไร ก็ต้องนำมาวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม
> ส่วนผลตอบแทนนั้นเป็นผลพลอยได้ที่เราควรให้กับพนักงานที่
> มีผลงานดี มีศักยภาพเป็นที่ยอมรับ เพื่อสร้างแรงจูงใจในองค์กรครับ
> ถ้ามีระเบียบอย่างนี้ไม่เป็นผลดีต่อองค์กรแน่นอนครับ
> คงไม่มีใครอยากทำงานด้วย
>
> ข้อที่ 3. ประเด็นนี้ขึ้นอยู่กับอาชีพหรือกิจกรรมที่ลูกจ้างทำครับ
> ว่าส่งผลเสียหายต่อนายจ้างหรือไม่
> ถ้าส่งผลเสียหายจริง นายจ้างสามารถใช้อำนาจบังคับบัญชาสั่งห้ามได้ครับ
> ถ้าลูกจ้างฝ่าฝืนก็พิจารณาโทษได้
> และอาจเป็นโทษร้ายแรงที่นายจ้างเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่จ่ายค่าชดเชยด้วยซ้ำ
> เช่นเอาเวลางานนายจ้างไปทำงานส่วนตัว
> อย่างนี้ก็อาจเข้าข่ายทุตริตต่อหน้าที่ตามมาตรา 119 ได้ครับ
> ในทางตรงข้าม หากอาชีพเสริมหรือกิจกรรมอะไรก็แล้วที่ลูกจ้างทำอยู่
> แล้วไม่ส่งผลเสียหายต่อนายจ้าง
> นายจ้างควรจะส่งเสริมหรือสนับสนุนด้วยซ้ำ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ
> และยังจะเป็นการเสริมทักษะให้ลูกจ้างมีศักยภาพ
> มากขึ้นด้วยซ้ำ เช่นหากทำธุรกิจขายรถ แล้วลูกจ้างมีอาชีพเสริมค้าขายเสื้อผ้า
> ยิ่งน่าส่งเสริมมาก ๆ ด้วยซ้ำ
> เพราะเป็นการฝึกให้ลูกจ้างทำธุรกิจ รู้จักค้าขายเป็น
> ถ้าลูกจ้างคนนั้นไม่ได้ทำงานฝ่ายขาย หากนายจ้างเห็นว่าจากการที่เค้าทำธุรกิจ
> ส่วนตัวค้าขายอยู่ด้วย หากมีโอกาสก็ควรจะเลื่อนตำแหน่งเค้ามาทำฝ่ายขายเลยครับ
> อาจจะมาฝึกสอนทักษะเค้าเพิ่มเติมด้วยก็ยิ่งดี
> นายจ้างมีแต่ได้กับได้นะครับ
> แม้กระทั่งส่งเสริมให้เค้าทำธุรกิจขายพวกอุปกรณ์ตกแต่งรถ
> หรือน้ำหอมปรับอากาศในรถ อะไรต่าง ๆ
> เหล่านี้ ควรส่งเสริม มากกว่าไปห้ามครับ
> จริง ๆ
> แล้วนายจ้างไม่ควรไปใช้วิธียุ่งยากว่าจะต้องให้ลูกจ้างส่งรายงานอะไรต่ออะไรมาให้อนุมัติเลยครับ
> เสียเวลาเปล่า ๆ ง่าย ๆ เลย คือนายจ้างออกระเบียบมาเลยครับ อยากจะห้ามอะไร
> อยากจะแก้ปัญหาอะไรก็เขียนออกมา
> เช่น ห้ามพนักงานทำธุรกิจที่เป็นการแข่งขันกับนายจ้าง
> ห้ามพนักงานเอาเวลางานไปทำธุรกิจส่วนตัว
> ห้ามพนักงานปล่อยเงินกู้ซื้อขายหวยใต้ดิน หรือเล่นแชร์กันภายในบริษัท
> ห้ามพนักงานทำธุรกิจขายตรงที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
> พร้อมทั้ง ออกคำเตือนกำกับท้ายข้อห้ามไปว่า
> - พนักงานที่ทำธุรกิจส่วนตัวนอกจากที่ประกาศเป็นข้อห้ามแล้วนี้
> ให้ทำได้
> แต่จะต้องไม่ทำให้งานที่รับผิดชอบอยู่เสียหาย
> - พนักงานที่ฝ่าฝืนข้อห้ามดังกล่าวและทำให้บริษัทเสียหาย
> อาจถูกพิจารณาเลิกจ้างได้ทันทีโดยไม่จ่ายค่าชดเชย
> เป็นต้นครับ
> อยากจะห้ามลูกจ้างทำอะไรก็เขียนออกมาเลย
> โดยไม่ไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของลูกจ้าง
> นายจ้างมีสิทธิอยู่แล้ว
> เมื่อทำระเบียบนี้ออกมาแล้วก็ส่งให้พนักงานตรวจแรงงานเค้าตรวจสอบว่ามีอะไรขัดต่อกฎหมายหรือไม่
> ถ้าเรียบร้อยดี ก็ประกาศออกมาให้ลูกจ้างทราบโดยทั่วกัน
> เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ ใครฝ่าฝืนก็ว่ากันไปตามมาตรการทางวินัยได้เลย
> ง่ายกว่าเยอะครับ
>
> ข้อที่ 4. ประกาศหรือระเบียบต่าง ๆ นั้น หลักการแล้วจะต้องทำให้มีความชัดเจน
> มีกรอบที่แน่นอน อ่านแล้วเข้าใจไปในเรื่องเดียวกัน
> และต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย มีความเป็นธรรมในการใช้บังคับ
> จะห้ามอะไรก็เขียนออกมาเป็นเรื่อง ๆ ไปเลยครับ อย่าเขียน
> ให้กว้างจนเกินไป
> อะไรที่ควรระบุให้ชัดเจนก็ระบุลงไปได้แบบไม่ต้องเกรงใจเลยครับ
> ตราบใดที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย
> เพราะถ้าไม่เป็นไปตามนี้แล้ว
> เช่นเขียนออกมากว้างมากอย่างที่คุณบอกมา มันจะตีความได้หลายเรื่อง
> หรือออกมาแล้วเป็นการเอาเปรียบลูกจ้างเกินสมควร
> บอกได้เลยว่าปัญหาจะตามมามากมายให้ปวดหัว จนวัน ๆ
> หัวหน้าคุณคงไม่ต้องไปทำอะไรครับ
> และต่อไปพนักงานคงทะยอยกันลาออกแน่ เพราะมีข้อห้ามเรื่อง
> ห้ามทำอาชีพเสริมนอกเวลางานอยู่ด้วย โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นอาชีพอะไร
> นั่นก็หมายถึงทุกอาชีพเลยนะครับ
> ความรู้สึกของพนักงานที่ได้อ่าน
> เค้าอาจจะคิดไปว่า เสมือนเค้าตกเป็นทาสนายจ้างก็ได้นะครับ
> ยกเว้นว่าข้อห้ามของนายจ้างเรื่องการทำธุรกิจส่วนตัวนอกเวลางานนั้น
> นายจ้างจะมีเหตุผลอันสมควรที่ลูกจ้างยอมรับได้
> ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ
> แต่ถ้าเหตุผลคลุมเครือ ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตเค้าไม่ดี
> และไม่มีความสุขที่ได้ทำงานกับบริษัทนี้ เมื่อไม่มีความสุข
> จะให้เค้าทำงานเต็มความสามารถ
> ก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
> และถ้ามีโอกาสเค้าไปหาที่อื่นที่ไม่มีข้อห้ามอย่างนี้จะดีกว่า
> ธุรกิจของนายจ้างเสียหายได้อย่างคาดไม่ถึงจากระเบียบทำนองนี้ครับ
> โดยเฉพาะธุรกิจค้าขายที่ต้องให้บริการลูกค้าด้วย ก็ยิ่งอันตรายครับ
> แค่พนักงานเครียดไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส ลูกค้าก็ไม่พอใจแล้วครับ
>
> ถ้าในฐานะคุณเป็นคนกลางควรจะทำอย่างไร
> ผมว่าต้องรีบคุยกับหัวหน้าถึงหลักการและเหตุผลตลอดจนผลกระทบที่จะตามมาดีกว่าครับ
> แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ยากที่จะแก้ โดยเอาข้อที่ 3.
> เป็นแนวทางก็ได้ครับ
> อย่าลืมว่าคนที่เขียนกฎออกมาก็จะต้องอยู่ภายใต้กฎนี้เหมือนกัน
> ถ้าลองอ่านดูแล้วโดยนึกถึงว่าตัวเองก็เป็นลูกจ้างคนหนึ่ง
> และเห็นว่าตัวเองก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสิ่งที่เขียนออกมานี้
> ก็แสดงว่ากฎนั้นใช้ไม่ได้ครับ
>
> อดิศร
>
>
> Date: Sun, 12 Dec 2010 01:28:18 +0800
> From: james.bodin0206@yahoo.co.th
> Subject: [SIAMHRM.COM :31219] ห้ามพนักงานประกอบธุรกิจนอกเวลางาน
> ทำได้หรือไม่ครับ???
> To: siamhrm@googlegroups.com
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
>
> สวัสดี อ.อดิศร และสมาชิกทุกท่านครับ
>
>
> ขอความรู้และความคิดเห็นของทุกท่านด้วยครับ เรื่องการออก Code of Conduct
> ห้ามพนักงานไปทำธุรกิจส่วนตัว/กิจกรรมภายนอกอื่นๆ ทั้งภายในและ ภายนอกเวลาทำงาน
> ถ้าหากพนักงานมี หรือจะมีธุรกิจ/กิจกรรมภายนอกอื่นๆ
> จะต้องได้รับการอนุมัติจากกรรมการผู้จัดการเป็นกรณีๆ ไป
>
>
> คำถามที่ 1 บริษัท สามารถทำได้หรือไม่? มีผลตามกฎหมายหรือไม่?
> (ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมคิดว่า บริษัทสามารถทำได้
> แต่จะมีผลตามกฎหมายเฉพาะกรณีที่พิสูจน์ได้ว่า ธุรกิจ
> นั้นขัดต่อผลประโยชน์ของบริษัท และทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย นอกจากนั้น
> ไม่มีผลตามกฎหมาย เช่น บริษัทขายรถ พนักงานเปิดร้านขายเสื้อผ้า
> ถึงพนักงานจะลงนามยินยอมในสัญญา สัญญาก็จะถือเป็นโมฆะ ถ้าพนักงานฟ้อง
> ร้อยทั้งร้อย นายจ้างแพ้ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ)
>
>
> คำถามที่ 2 หากบริษัท ออกประกาศให้พนักงานทุกคน
> แจ้งกลับว่าตนเองประกอบกิจกรรมอะไรอยู่บ้าง เพื่อให้กรรมการผู้จัดการอนุมัติ
> ถ้าพนักงานไม่แ้จ้ง จะมีผลอะไรหรือไม่ครับ เช่น
> นำมาประกอบการพิจารณาปรับเงินเดือน โบนัส ฯลฯ ได้หรือไม่
> (ตามความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิและเสรีภาพของลูกจ้าง
> ที่จะประกอบสัมมาอาชีพอื่นๆ
> ที่ไม่ขัดขวางผลประโยชน์ของบริษัท/ไม่ขัดกฎหมายและศีลธรรม
> โดยไม่ได้ใช้เวลาทำงานมาประกอบกิจนี้
> หากนายจ้างนำมาพิจารณาการจ่ายผลตอบแทนของพนักงาน ถือว่านายจ้างไม่เป็นธรรม
> ถ้าฟ้อง ร้อยทั้งร้อย นายจ้างแพ้ ถูกไหมครับ)
>
>
> คำถามที่ 3 หากพนักงานแจ้งไปแล้วว่าตนเองทำอะไรอยู่บ้าง
> แต่ปรากฎว่านายจ้างไม่อนุมัติ
> และพนักงานไม่ยินยอมที่จะเลิกการประกอบกิจกรรมของตนเอง จะเกิดอะไรขึ้นครับ
> (ผมว่า พนักงานคนนี้แย่แล้วครับ ต้องเลือกแล้วล่ะ ถ้าจะเลือกกิจการของตนเอง
> อนาคตที่นี่ก็ดูจะริบหรี่ ถ้าไม่ลาออก ก็อาจจะถูกบีบออก หรือจ้างออก
> นั่นหมายความว่า บริษัทเกิดปัญหาแรงงานสัมพันธ์
> โดยที่บริษัททำไปโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้
> (มัวแต่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองฝ่ายเดียว) ใช่หรือไม่ครับ ผมคิดถูกไหม)
>
>
> คำถามที่ 4 ถ้าหัวหน้าผมออกประกาศเรื่องนี้ แจกแบบฟอร์มไปแล้วด้วย
> (ทำเองเลยครับงานนี้) โดยข้อความบอกแค่กว้างๆ
> ว่าห้ามพนักงานประกอบธุรกิจอื่นทั้งในและนอกเวลาทำงาน
> ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าธุรกิจอะไรบ้างที่อนุญาตหรือไม่อนุญาต เพราะเหตุใด
> และให้พนักงานแจ้งมาเพื่อให้กรรมการผู้ัจัดการอนุมัติ
> ..อย่างนี้ผมในฐานะคนกลางควรทำอย่างไรดีครับ
>
>
> ขอความช่วยเหลือทุกคนด้วย ผมว่ามีอีกหลายๆ ที่ทำแบบนี้นะครับ
>
>
> บดินทร์
> ผมอยากเป็น HR มืออาชีพครับ..
>
> --
> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
>
> แนะนำ :
>
> http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2
> เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
> http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
> --
> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
>
> แนะนำ :
>
> http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2
> เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
> http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
>
> --
> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
>
> แนะนำ :
>
> http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2
> เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
> http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>


--
UncleTong Paradise...

--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -

แนะนำ :

http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2 เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ไม่มีความคิดเห็น: