วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Re: [SIAMHRM.COM :31453] ขอความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติสำหรับการออกใบรับรองการผ่านงาน

สุดยอด...

เมื่อ 17/12/2553, lekhots <lekhots@gmail.com> เขียนว่า:
> สวัสดีครับคุณศุภวรรณ
>
> - ยินดีครับ
> - ขอบคุณครับที่ได้คุยด้วย
>
> เล็ก
>
> เมื่อ 17 ธันวาคม 2553, 0:18, ศุภวรรณ เบญจรัตนาภรณ์
> <sbenjar2007@gmail.com>เขียนว่า:
>
>> สวัสดีค่ะคุณเล็ก,
>> ว่าจะไม่ตอบเพราะมีปัญหาเรื่องการพิมพ์มากทำให้เสียเวลาแต่อ่านแล้วอดไม่ได้ขอสักนิดแล้วกันนะคะก่อนไปทำงานต่อเป็นพนักงานที่ดีเห็นไหมคะแต่อย่าเชื่อภาพที่เห็น
>> ที่ยังต้องทำงานต่อเพราะติดนิสัยนอนเช้าเลยตาสว่างเวลากลางคืน
>> ใช้ชีวิตทำงานผิดเวร่ำเวลากับคนอื่นเค้านะค่ะขออภัยถ้าสะกดผิดตกๆหล่นๆดิฉันภาษาไทยไม่แข็งแรงภาษาอังกฤษก็สาหัส
>> เริ่มเรื่องดีกว่านะคะ
>> ดิฉันเชื่อว่าคนเรามีทั้งแบบทฤษฎี X
>> และYอยู่ในตัวเองเหมือนกันหมดทุกคนเพียงแต่เลือดใครจะข้นกว่ากันหรือได้รับการหล่อหลอมมาแบบไหนเความเชื่อความคิดทัศนคติเปลี่ยนแปลงได้เมื่อมีวุฒิภาวะสูงขึ้นหรือได้รับการสั่งสอนอบรมที่ดี
>> ดิฉันเคยทำงานขายควบการตลาดมาบ้างปกติเวลาขายส่วนมากวิญญานนักขายมักจะสิงอยู่เสมอว่าทำอย่างไรก็ได้ให้สินค้าขายได้แต่เนื่องจากบรฺษัทเป็นผู้ผลิตที่มีโรงงานในเมืองไทยแล้วส่งออกขายต่างประเทศมีคู่เป็นแบรนด์ใหญ่ดังๆค่อนข้างมากและจับตลาดต่างประเทศทางยุโรปค่อนข้างมากเลยเน้นคุณภาพดิฉันต้องมีหน้าที่สำรวจตลาดและหาข้อมูลและหาทางแก้ไขปัญหาสินค้าให้กับโรงงานไปในตัวด้วยควบR&Dซะเลย
>> นายฝรั่งจะเก่งมากในด้านการสร้างแบรนด์และcheer up
>> พนักงานคติประจำใจของพนักงานที่Presidentจะเน้นและปลูกฝังให้ทุคนพูดตลอดคือ"
>> YES! WE
>> CAN
>> "ไม่ว่าลูกค้าต้องการอะไรเราต้องให้เค้ารับรู้ว่า"เราทำได้ตลอด"จนทุกวันนี้ดิฉันออกมาเกือบ10ปีแล้ว"
>> YES! WE CAN "
>>
>> ยังเป็นคำที่ดิฉันยึดมั่นเชื่อถือตลอดมาถึงจะแอบขี้เกียจและเกเรบ้างก็แค่แว๊บๆเท่านั้นล่ะเชื่อใจและเชื่อมั่นตัวเองนั่นแหละดีที่สุดยิ่งกว่าทฤษฎีไหนๆ
>> สวัสดีค่ะได้เวลาทำงานแล้วโอกาสหน้าค่อยคุยใหม่นะคะ
>> ศุภวรรณ
>>
>>
>>
>>
>>
>>
>>
>>
>>
>> เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 20:20, lekhots <lekhots@gmail.com> เขียนว่า:
>>
>> - ขอบคุณครับคุณศุภวรรณ ที่ร่วมแจม
>>> - เข้าใจว่ามีประสบการณ์เรื่องคนแต่ละระดับมาทุกประเภทแล้วนะครับ
>>> แล้วอะไรที่คุณศุภวรรณเชื่อล่ะครับ?
>>> - เช่น ทัศนคติที่ใช้มองคน (เช่น ทฤษฎี X ทฤษฎี Y)
>>> จริงอยู่แม้แต่ละคนจะมีความแตกต่างกันมาก ตามโลภะโทสะโมหะที่ตนมี
>>> แต่มันย่อมมี
>>> ความจริงอยู่อันหนึ่ง ที่สามารถบอกกับคนทั้งโลกได้ว่านี่คือความจริง
>>> เป็นหลัก เป็นกฏของธรรมชาติ
>>> - ผมเชื่อในความดีของเจ้านายคนที่ชอบช่วยเหลือ-สนับสนุนลูกน้องของคุณ
>>> แม้จะนำเอาความเห็นอกเห็นใจจากประสบการณ์ในอดีต
>>> ของตัวเองเป็นตัวตั้ง
>>> แต่จุดเริ่มต้นในการสร้างองค์กรที่ดีนั้นผมว่ามาจากตรงนั้น
>>> ถ้าเจ้าของเป็นคนคิดดี พูดดี ทำดี ให้เกียรติคน แม้ได้ชื่อว่า
>>> "ลูกจ้าง" เขาก็เป็นคน และเป็นคนที่คุณรับเขาเข้ามาอยู่ในองค์กร
>>> จริงอยู่องค์กรธุรกิจไม่ใช่มูลนิธิ แต่ถ้านายจ้างรู้และสำนึกว่า พนักงานหรือ
>>> ลูกจ้างก็ไม่ใช่อาสาสมัคร ไม่ใช่ทาสแล้วละก้อ
>>> ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาพึงปฏิบัติหรือแสดงออกมานั้น ย่อมนำไปสู่ความสุข
>>> ความสบายใจของ
>>> คนทำงานทุกระดับ ติดเพียงแค่ว่า ต้องมีระบบที่ชัดเจนและเป็นธรรม คือ
>>> ธุรกิจก็บรรลุจุดประสงค์ของธุรกิจ คนก็ยังมีความเป็นคนอย่างสมศักดิ์ศรี
>>> ไม่ใช่อยากจะให้ใครเท่าไหร่ก็ให้ มันก็ต้องมีระบบ
>>> มีหลักให้ทุกคนยึดถือปฏิบัติร่วมกัน อย่างนี้คือสิ่งที่ผมเชื่อ
>>> - ผมเคยมีหัวหน้างานคนหนึ่ง เป็นคนทำงานเก่ง คิดได้เร็ว และทำได้ผลเร็ว
>>> แต่นิสัยส่วนตัวไม่ค่อยน่ารัก ชอบดื่มชอบเที่ยวเป็นประจำ จนมาวันหนึ่ง
>>> พลาดท่าเสียทีไปติดเชื้อ HIV หลังจากที่เขาทราบผลตรวจ
>>> ก็ยิ่งกินเที่ยวหนักขึ้นๆ
>>> เพราะสมัยนั้นเมื่อติดเชื้อนี้คือต้องตายในเวลาอันใกล้ และจะถูก
>>> สังคมรังเกียจไม่อยากอยู่ใกล้แม้แต่ลูกน้องตัวเอง
>>> ภายในเวลาไม่กี่เดือนหลังจากโรคร้ายแสดงอาการ
>>> ลักษณะภายนอกของเขาก็กลายเป็นคนละคน
>>> อากาศร้อนจะตาย
>>> ก็ต้องสวมเสื้อแขนยาวเพื่อปกปิดตุ่มหนองที่เริ่มพุพองขึ้นมา
>>> มักจะขาดงานทุกวันจันทร์และวันศุกร์หรือเสาร์ก่อนวันหยุด เพื่อนฝูง
>>> ที่ยังพอมี ก็เป็นห่วงเป็นใย
>>> คอยพูดคุยให้ห่วงตัวเองหน่อย และช่วยกันบอกให้ไปรักษาตามโครงการเพื่อนเอดส์
>>> มันก็ไม่เชื่อ ไม่ทำ เพราะคิดว่า
>>> ตัวเองไร้ค่าแล้ว.....อีกไม่กี่วันกี่เดือนก็จะตายแล้ว (CD4
>>> เหลือไม่ถึงสิบ) .....จนวันหนึ่ง ผมมาทราบเรื่อง ก็เลยคุย
>>> (คุยในวงเหล้านั่นแหละ) พูดเรื่อง
>>> ข้อดีของเขา ความเก่ง ความฉลาดที่เขามีมากกว่าผม
>>> พูดเรื่องแม่ที่อยู่บ้านนอกคนเดียว และหลานของเขาที่เขาส่งเรียน ฯลฯ
>>> ...แต่สุดท้ายเขาก็ไม่เชื่อ
>>> ยังยืนยันความไร้ค่าของตัวเอง ผมก็ใช้เวลาอีกหลายครั้ง
>>> ครั้งละหลายชั่วโมง
>>> จนสุดๆแล้วก็เลยบอก OK ถ้าเอ็งอยากจะตายจริงๆ ผมขออย่างหนึ่ง
>>> ให้กลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้านนอกซักครั้งก่อน
>>> แล้วจะกลับมาตายบนความสุขที่หลงเหลืออยู่นี้ก็ค่อยว่ากัน
>>> และขอให้ตัดหัวของเอ็งเอามาใส่หัวข้า .....
>>> ผมจะได้คิดได้เก่งเหมือนมัน...ก็สุดๆจริง แต่ได้ผล เขากลับไปหาแม่
>>> เล่าให้แม่ฟัง แล้วก็มานึกสงสารแม่ ที่แม่เป็นทุกข์ กลับมาบอกผมว่า
>>> "ผมจะเข้าโครงการ".....
>>>
>>> - นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในการรักษาทั้งกายและใจ จากคนที่สิ้นแล้วทุกอย่าง
>>> - โชคดีที่ตอนนั้นมียาใหม่ที่คงจะวิจัยมาแล้วว่าได้ผลดี
>>> ตัวเขาก็เหมือนกับหนูทดลองยาไปในตัวด้วย .... ก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 6 เดือน
>>> เขาก็อ้วนท้วน
>>> สมบูรณ์ น้ำหนักเพิ่มขึ้น และอดเหล้า อดเที่ยวได้ถึง 6 เดือน
>>> ผมก็แนะนำให้ไปเรียนต่อป.ตรี จะได้ไม่มีเวลาว่างนั่งเครียด มันก็ไปเรียน
>>> นั่นแหละ
>>> จุดเริ่มต้นเที่ยวอีกครั้งเพราะสุขภาพดีขึ้นเป็นปกติ CD4
>>> มากกว่าคนปกติซะอีก ก็ไม่ว่ากัน ไปหาหมอตามกำหนดก็แล้วกัน ....
>>> ชีวิตเขาก็กลับมา
>>> เหมือนเดิม มีความเชื่อมั่นในตนเอง เห็นคุณค่าของตัวเองมากกว่าเดิม
>>> ผ่านไปได้ 1 ปี ผมจะ Promote เป็น Asst Mgr. ก็มีเสียงคัดค้านเข้าหู แม้แต่
>>> เจ้าตัวเองก็ยังไม่มั่นใจด้วยความเป็นผู้ติดเชื้อ ผมก็บอกมันช่วยไม่ได้
>>> ที่คุณจะมีเชื้อติดตัวอยู่ เมื่อผม Promote มันก็เลยเหมือน Promote
>>> เชื้อไปด้วย
>>> อย่างนั้นหรือ?....ผมก็ดึงดันเอาจนได้
>>> เพราะผมเชื่อว่าเมื่อคนมั่นใจในคุณค่าของของตัวเองแล้วเขาก็จะทำในสิ่งที่เขาทำได้
>>> โดยไม่มานั่งดีดลูกคิด
>>> เรื่องค่าจ้างเรื่องอะไรพร่ำเพรื่อ ... เขาใช้เวลาเรียน 5 เทอมก็จบป.ตรี
>>> เกรด 3 กว่า .... แล้วมันก็เอาใบปริญญามาอวดผมด้วย....
>>> - ผม Early ออกมาปี 2009 เดือน มี.ค. พอถึงเดือน พ.ค. Asst Mgr (ครบ 2 ปี)
>>> ของผมคนนั้นได้รับ Promote เป็น Sect Mgr.โดยที่ผมไม่ได้
>>> อยู่ด้วยแล้ว แสดงว่า ที่ผมทำมานั้นถูกต้องแล้ว .....
>>> - ที่เล่ามาทั้งหมดเนี่ย อาจจะเสียเวลาอ่านซักหน่อย
>>> แต่อยากจะเล่าแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันว่า คนโดยมาก
>>> หากได้รับการปฏิบัติจากคนในแบบที่
>>> คนด้วยกันพึงปฏิบัติต่อกันแล้ว
>>> โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากคนที่เขารู้อยู่แล้วว่าเหนือกว่าด้วยอำนาจ
>>> เหนือกว่าด้วยเศรษฐกิจ หรือแม้แต่เหนือกว่าด้วย
>>> บุญ-วาสนา มันจะเป็นพื้นฐานให้คนนั้นๆมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
>>> ไม่ดูถูกตัวเอง และเป็นกำลังใจที่ดี
>>> ในการที่จะทำหน้าที่ด้วยความกระตือรือร้น
>>> รับผิดชอบ (แต่ก็ต้องได้รับการพัฒนาด้วย) ....
>>> - ผมเชื่ออย่างนี้ครับ แล้วคุณศุภวรรณ เชื่ออย่างไรครับ
>>>
>>> ขอบคุณครับ
>>> เล็ก
>>>
>>> เมื่อ 16 ธันวาคม 2553, 0:31, ศุภวรรณ เบญจรัตนาภรณ์ <sbenjar2007@gmail.com
>>> > เขียนว่า:
>>>
>>> สวัสดีค่ะคุณ.อดิศรและคุณเล็ก,
>>>> -ขอคุยด้วยคนนะคะพอดีเปิดอ่าแล้วตรงใจมากจริงๆเลยอยากแชร์ด้วยจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาก็คิดว่ามากพอสมควรเพราะชีวิตเลยหลักสี่ใกล้ห้าแยกแล้วดิฉันเคยเจอเจ้านายมาหลายรูปแบบบางท่านก็ดีเลิศประเสริฐศรีจนลูกจ้างอย่างดิฉันยังต้องแอบปกป้องด้วยกลัวว่าคนดีมากจริงๆจะตกเป็นเหยื่อของพนักงานขี้โกงเห็นแก่ตัวเห็นแก่เงิน
>>>> นายที่ว่านี้ทราบจากผู้รู้จักมาว่าสมัยเด็ก
>>>> ครอบครัวท่าจนมากขนาดข้าวที่กินยังต้องซื้อวันละ1กระป่องนมข้นหุ้งข้าวกินไม่ได้เพระจะกินไม่อิ่มต้องหุงข้าวต้มทุกมื้อไม่มีเงินซื้อหนังสือเรียนหนังสือต้องขอยืมเพื่อนหรือห้องสมุดมาลอกเอาไว้อ่านเองระหว่างเรียนก็รับทำงานพิเศษพอจบก็ทำงานหาเงินเก็บออมทำธุรกิจเล็กๆด้วยตัวเองสมัยเด็กๆไปเล่นกับลูกบ้านคนมีเงินห่อยคนก็ไม่ให้เข้าบ้านเพราะกลัวจะไปขโมยของพอพนักงานจนๆเดือดร้อนท่านก็สงสารช่วยเหลืออยู่เป็นประจำเพราะรู้สึกดีว่าความจนเป็นอย่างไรแต่พนักงานบางคนก็เห๊นความใจดีของท่านเลยถือโอกาสขอความช่วยเหลือทั้งที่ตัวเองลำบากเพราะนิสัยขี้เกียจไม่อยากทำงาน
>>>> ส่วนนายจ้างอีกท่านก็สร้างตัวมาด้วยความลำบากครอบไม่ถึงกับยากจนแบบอดอยากแต่ก็ไม่ได้มีทุนรอนพ่อแม่ให้นายจ้างท่านนี้ก็ถือว่าท่านเองหามาด้วยความยากลำบากทุกอย่างที่มีอย่างมหาศาลในปัจจุบันคือหยาดเหงื่อและแรงงานเวลาจ่ายก็คิดมากหน่อยคือต้องคุ้มค่าและสมควรแก่การจ่ายประเภท"work
>>>> hard pay hard"
>>>> พนักงานที่บริษัทฯทำงานไปก็ด่านายนินทานายไปแต่ไม่ยอมลาออกสักทีเพราะรายได้ค้ำคอยู่จนตัดใจไม่ลงเข้าตำราเกลียดตัวกินไข่
>>>> ซึ่งสำหรับตัวดิฉันว่า
>>>> มันก็สมควรอยู่คนทำกิจการค้าย่อมหวังผลกำไรไม่ใช่การกุศลนี่นา
>>>> ส่วนพนักงานบางคนต้องบอกว่าส่วนใหญ่ของคนไทยโดยเฉพาะพนักงานที่ใช้แรงงานหาเช้ากินค่ำไม่อยากพูดว่าข้าวสารไม่หมดไม่หากรอกหม้อแต่ต้องหิวจนไส้กิ่วทำงานจะไม่ไหวแล้วนั่นแหละถึงจะลุกจากวงเหล้าวงพนันมาหากินแล้วก็ขี้เกียจสันหลังยาวเป็นกิโลชอบคิดว่าคนจนด้อยโอหกาสหรือขาดโอกาสแต่ที่เห็นส่วนใหญ่หรือจากวงศาคณาญาติที่รู้จักคือไม่ดิ้นรนเข้าหาโอกาสคอยจะให้โอกาสตกปู๊ลงมากองแทบเท้า
>>>> กลับตารปัดกับคนรวยมีอันจะกินกลับกลัวจน
>>>> ทำงานหามรุ่งหามคำไม่ได้พักผ่อนสุดท้ายไม่มีโอกาสใช้เงินเก็บไว้ให้ลูกเต้าพี่น้องแย่งสมบัติกันจนฆ่ากันเองเห็นมั๊ยค่ะดิฉันว่าคนมันมีทุกประเภทแหละทั้งนายจ้างแย่เค็มสุดๆหรือลูกน้องแสนแสบชนิดนายจ้างไม่อยากเจอดิฉันอยากบอกว่าอย่าคอยหวังพึ่งใบบุญใครหรือหวังว่าจะเจอเจ้านายดีๆเลยค่ะหาทางเป็นเจ้านายเองดีกว่าตัวเราใหญ่สุดไม่ต้องมองสีหน้าใคร
>>>> แต่ว่าดิฉันยังเคยคิดเล่นๆเลยว่าถ้าเราทำบริษัทฯของตัวเองจริงเราจะทำได้ดีกว่าเจ้าของบรฺษัทฯที่เราว่าแย่จริงหรือเพราะเห็นมามากต่อมากแล้วเหมือนกันว่าเงินเข้ามาแล้วไม่อยากให้ออกจากไปเหมือนกันหมดทุกคน
>>>> *ใจเขาใจเรา*ยังไงล่ะถ้าเราเป้นเจ้าของจะยอม
>>>> มีกำไรน้อยๆแล้วจ่ายเงินเดือนพนักงานมากๆจ่ายโบนัสปีละหลายๆล้านให้พนักงานแน่หรือหรือจะทำเนียนเหมือนคนอื่นๆปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีไม่มีใครจ่ายโบนัสกันบริษัทฯเรายังโชคดีอยู่บ้างไม่ถึงกับขาดทุนแตผลประกอบการก็ตำลงมากดังนั้นโบนัสปีนี้จะลดลงจาก1-3เดือนเหลือ0.5-1.5เดือนแล้วแต่ผลการประเมินงานทั้งทีจริงๆกำไรเกือบจะเท่าเดิมล่ะแต่หมกเม็ดเอาไว้เพื่อว่าปีหน้าอาจขาดทุนเพราะเท่าที่ดูการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจต้องใช้เวลา2-3ปีเป็นอย่างน้อย..น่าสงสัยเหมือนกัน
>>>> นะเห็นมั๊ยเอ่ย
>>>> ขอบคุณค่ะที่กรุณาให้ร่วมคุยด้วย
>>>> ศุภวรรณ
>>>>
>>>> เมื่อ 14 ธันวาคม 2553, 11:08, lekhots <lekhots@gmail.com> เขียนว่า:
>>>>
>>>> เรียนคุณ อดิศร
>>>>> พอดีได้อ่านเรื่องราวในกระทู้รู้สึกโดนใจว่า
>>>>> โดยทั่วไปแล้วการบริหารงานบุคคล หรือบางที่เรียกตามชาวบ้านให้ดูดีว่า
>>>>> "ทรัพยากร"บุคคล
>>>>> ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่ที่ผมเคยสัมผัสมาเนื้อในกระบวนการ
>>>>> วิธีการปฏิบัติต่อคน หรือแม้แต่ทัศนคติการมอง"คน"
>>>>> กลับไม่ได้ทำให้คนรู้สึกตัว
>>>>> เลยว่าเป็น "ทรัพยากร" เพราะเมื่อมีคำว่า
>>>>> "ทรัพยากร"แล้วควรที่จะมีทัศนคติว่าเป็นสิ่งมีคุณค่า มีประโยชน์
>>>>> และเป็นความรับผิดชอบส่วนหนึ่งของ
>>>>> ผู้ดูแลว่าต้อง สรรหา พัฒนาและสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ สมกับเป็นทรัพยากร
>>>>> ....แต่สิ่งที่คนได้รับมันไม่ใช่ เช่น ไม่มีโครงสร้างเงินเดือน ว่า
>>>>> เริ่มเท่าไหร่ ปรับขึ้นอย่างไร เส้นทางความเจริญก้าวหน้าเป็นอย่างไร
>>>>> บางช่วง 2-3 ปีไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนเลย โดยเฉพาะรายวัน ทำมากี่สิบปี
>>>>> ก็กินค่าแรงขั้นต่ำ ปีไหนที่ทางการไม่ออกกฏหมายให้ปรับก็ไม่ได้รับการปรับ
>>>>> ฯลฯ อย่างนี้เนี่ยจะทำความเข้าใจกับพนักงานหรือกับเถ้าแก่ว่าอย่างไร
>>>>> ดีครับ
>>>>> พนักงานก็แน่นอนรู้สึกไม่ดี ไม่พอ ไม่แฟร์ เพราะเถ้าแก่จะอ้างว่าขาดทุน
>>>>> แต่คนก็เห็นว่ามีซื้อรถใหม่ สร้างห้องใหม่ ซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ฯลฯ
>>>>> ที่มันต้องใช้เงินทุกปี แล้วจะบอกให้เชื่อได้อย่างไรว่าขาดทุน
>>>>> ผิดมั๊ยครับที่เถ้าแก่ไม่ปรับขึ้นเงินเดือนเลยเป็น
>>>>> 2ปี3ปีเรื่องสวัสดิการหรือเงินเพิ่มอย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง พนักงานรายวัน
>>>>> ก็พันกว่าคน รายเดือนจะมีซัก 4-5 ร้อยคน พวกอายุงานเกินสิบปีก็เฉลี่ยเกิน
>>>>> 35-40ไปแล้ว พวกอายุ 23-30 จะมีอายุงานซัก 1-2 ปีหรือน้อยกว่า
>>>>> เรื่องวิธีคิดหรือทัศนคติต่อคนคือทฤษฏี X
>>>>> ล้วนๆ....ถ้าเจอเถ้าแก่อย่างนี้จะทำยังไงดีครับ มีคำแนะนำมั๊ยครับ
>>>>> คุณภาพงานออกมาไม่ดีเพราะไปกำหนดเป้าหมายว่าเอาจำนวน
>>>>> ได้เกินเป้าจะเพิ่มตังค์ตาม rate วันละ5-10บาท
>>>>> แต่สุดท้ายลูกค้าคืนสินค้าเพียบ
>>>>> ทั้งสีผิด ความยาวไม่ถึง ขนาดใหญ่กว่าสเปค ฯลฯ
>>>>> สิ่งพวกนี้เถ้าแก่มองว่าเพราะคนมันพื้นนิสัยไม่ดี ต้องเอาออก
>>>>> ทั้งๆที่จัดฝึกอบรมก็ไม่ได้
>>>>> จัดประชุมเพื่อแก้ปัญหาก็หาว่าเสียเวลา ลงมาเดินใน Line ทุกวัน
>>>>> ชอบให้คนเคารพบูชา สักการะด้วย.....หลายคนอาจสงสัยว่าโลกปัจจุบันนี้ยังมี
>>>>> อยู่จริงหรือ...ขอยืนยันว่ามีจริงๆ....คุณอดิศรช่วยแนะนำด้วยครับ
>>>>>
>>>>> ขอบคุณครับ
>>>>> เล็กครับ
>>>>> เมื่อ 10 ธันวาคม 2553, 1:02, ศุภวรรณ เบญจรัตนาภรณ์ <
>>>>> sbenjar2007@gmail.com> เขียนว่า:
>>>>>
>>>>> ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำจากทุกท่านค่ะเริ่มเห็นแสงสว่างรำไรอยู่ปลายอุโมงค์แล้วจะลองพยายามดูอีกนะคะเพราะงานนี้ด้วยเหตุผลส่วนตัวถอยไม่ได้เลยค่ะ
>>>>>> ถ้าไม่ทำต่อทางเดินสุดท้ายที่เหลือให้ทำได้อย่างดียวจริงๆคือต้องออกมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกล่ะค่ะ
>>>>>> เมื่อ 9 ธันวาคม 2553, 15:00, adisorn klinpikul <
>>>>>> adisorn_pers@hotmail.com> เขียนว่า:
>>>>>>
>>>>>>> สวัสดีครับ อดิศร ครับ
>>>>>>>
>>>>>>> เท่าที่อ่านมาเรื่องนี้เกิดขึ้นกับ HR. มือใหม่หลาย ๆ ท่านนะครับ
>>>>>>> ไม่ต้องท้อใจ
>>>>>>> ผมเองใช้เวลาร่วม 5 ปี ในการค่อย ๆ
>>>>>>> ปรับเปลี่ยนให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง
>>>>>>> เหตุเพราะไม่ได้เรียนมาโดยตรง จบทางเศรษฐศาสตร์มาครับ
>>>>>>> เรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
>>>>>>> เพราะเล่นกันที่ความคิด
>>>>>>> และเราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้
>>>>>>> จึงต้องอ่านเกมส์ในด้านความคิดกันมากหน่อย
>>>>>>> ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องคิดถึงความรู้สึก คิดถึงผลกระทบทุก ๆ มิติ
>>>>>>> ทั้งในเรื่องของกฎหมาย เรื่องของการปกครอง และเรื่องของจิตวิทยา
>>>>>>> ควบคู่กันไปทุก ๆ กิจกรรม
>>>>>>> เป้าหมายของการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุด คือ
>>>>>>> การบริหารให้บุคลากรมีศักยภาพในการทำงานและทุกคนในองค์กรมีความสุขครับ
>>>>>>>
>>>>>>> ขอแนะนำในเบื้องต้นอย่างนี้ครับ
>>>>>>> 1.
>>>>>>> ให้ไปนำเสนอแนวทางการบริหารงานบุคคลแก่นายจ้างให้เข้าใจตรงกันเสียก่อน
>>>>>>> เพราะการบริหารงานบุคคลนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับทุกคนในองค์กร
>>>>>>> และทุกคนจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นผู้บริหารจะต้องเห็นชอบและสนับสนุน
>>>>>>> ให้เราปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วย ไม่งั้นหากเราจะเดินหน้าทำอะไร
>>>>>>> ทั้ง ๆ
>>>>>>> ที่เป็นสิ่งที่สมควรและถูกต้อง
>>>>>>> ก็จะมีคนคอยทำลายสิ่งที่เราตั้งใจเอาไว้ครับ
>>>>>>> เป็นธรรมชาติของคน ที่จะต่อต้านการเปลี่ยนแปลง หรือต่อต้านกติกาต่าง
>>>>>>> ๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะอุปนิสัยของคนไทย ที่ชอบอะไรง่าย ๆ
>>>>>>> ไม่ค่อยจะรักษาวินัยเท่าไหร่
>>>>>>> แม้แต่ผู้บริหารเองก็อาจเป็นผู้ทำลายโดยไม่ตั้งใจด้วยก็ได้นะครับ
>>>>>>> เรื่องนี้ควรกำหนดวิสัยทัศน์ของการบริหารงานในภาพรวมขององค์กร
>>>>>>> และแนวทางหรือโครงการที่เราจะทำรวมทั้งวัตถุประสงค์ต่าง ๆ
>>>>>>> ของแต่ละโครงการ
>>>>>>> ออกมาให้ชัดเจน ว่าเรามีเป้าหมายอะไรและคาดหวังอะไรบ้าง
>>>>>>> 2. การบริหารงานบุคคลนั้น จะต้องใช้หลักการปกครองที่ถูกต้องด้วย
>>>>>>> ซึ่งจริง
>>>>>>> ๆ แล้ว ฝ่ายบุคคลไม่ได้มีหน้าที่ในการปกครองใคร
>>>>>>> นอกจากลูกน้องตัวเองเท่านั้น
>>>>>>>
>>>>>>> คนที่จะต้องใช้อำนาจการปกครองคือผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้าของแต่ละสายงานที่จะต้องปกครองลูกน้องตัวเอง
>>>>>>> โดยฝ่ายบุคคลจะต้องเป็นผู้ออกแบบ
>>>>>>> ข้อบังคับ ระเบียบวินัยต่าง ๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย
>>>>>>> และมีหน้าที่คอยให้คำปรึกษาหรือวินิจฉัยความถูกต้องในกระบวนการพิจารณาทางวินัยของผู้บังคับบัญชา
>>>>>>>
>>>>>>> เรื่องนี้ฝ่ายบุคคลจะต้องมาดูโครงสร้างการบริหารงานและโครงสร้างการบังคับบัญชาทั้งหมดขององค์กรให้เหมาะสมตามความจำเป็นครับ
>>>>>>> และในกระบวนการทำเรื่องโครงสร้างการบริหารองค์กรนี้ก็ควรทำเรื่อง
>>>>>>> หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง การให้บำเหน็จความดีความชอบ
>>>>>>>
>>>>>>> โครงสร้างอัตราเงินเดือนรวมทั้งเส้นทางความก้าวกน้าในสายอาชีพเข้าไปด้วย
>>>>>>> 3. การบริหารงานบุคคลไม่สามารถทำคนเดียวได้
>>>>>>> ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมและความร่วมมือจากทุกคนในองค์กรจึงจะประสบผลสำเร็จ
>>>>>>> ประเด็นนี้ผู้บริหารจะต้องเข้ามาสร้างทีมในเบื้องต้นให้ก่อน
>>>>>>> โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาทั้งหลายนั้นจะต้องเป็นทีมเดียวกับฝ่ายบุคคลด้วย
>>>>>>> หลังจากนั้นจึงจะทำงานเป็นทีมร่วมกันต่อไปครับ
>>>>>>> และมีความจำเป็นว่าผู้บังคับบัญชาทั้งหลายนั้นจะต้องมีความรู้ด้านกฎหมายแรงงาน
>>>>>>> มีทักษะในการบังคับบัญชา และมีจิตวิทยาการปกครองด้วย
>>>>>>> เพราะเค้าต้องใช้ในการบังคับบัญชาเอง ไม่ใช่ฝ่ายบุคคลเป็นผู้ใช้ครับ
>>>>>>> 4. ดูแลเรื่องของกฎหมายอย่างเที่ยงธรรม เป็นกลางระหว่างนายจ้างลูกจ้าง
>>>>>>> ไม่ให้มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน
>>>>>>> ฝ่ายบุคคลจะต้องมาดูข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ
>>>>>>> หรือคำสั่งต่าง ๆ ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้อง
>>>>>>> ก็จะไม่สามารถสร้างวินัยในองค์กรได้ครับ
>>>>>>> 5. พัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถของคนในองค์กรอย่างสม่ำเสมอ
>>>>>>>
>>>>>>> ซึ่งจะต้องใช้ระบบการชี้วัดและบริหารผลงานที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพเพียงพอ
>>>>>>> อันหมายถึงผลที่ได้จากการบริหารผลงานหรือการประเมินผลงานนั้น
>>>>>>> จะต้องสามารถนำมาพิจารณา training need ได้ สามารถสร้างแรงจูงใจได้
>>>>>>> และมีการตอบแทนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน
>>>>>>> ว่าจะทำเมื่อไร และใครเกี่ยวข้องบ้าง
>>>>>>> 6.
>>>>>>> จัดกิจกรรมส่งเสริมด้านแรงงานสัมพันธ์หรือความรับผิดชอบทางสังคมในองค์กร
>>>>>>> เพื่อสร้างความสุขและสัมพันธภาพของคนในองค์กร
>>>>>>> งานนี้ขาดไม่ได้เลยครับ
>>>>>>> และจะต้องทำกิจกรรมในลักษณะที่ให้ทุกคนมีส่วนร่วมด้วย
>>>>>>> 7. งานส่งเสริมจริยธรรม วินัยและความรับผิดชอบของคนในองค์กร
>>>>>>> เรื่องนี้ก็ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
>>>>>>> มีกระบวนการพิจารณาทางวินัยเลิงสร้างสรรค์อย่างถูกต้อง
>>>>>>> โปร่งใสและเป็นธรรม
>>>>>>> โดยเฉพาะมาตรการทางวินัยนั้น จะต้องจริงจังและแก้ปัญหาได้
>>>>>>> ไม่ขัดต่อกฎหมาย
>>>>>>> ผู้ที่ได้รับโทษนั้นยอมรับและสำนึกในสิ่งที่ทำลงไปไม่ว่าจะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
>>>>>>> และต้องไม่ลืมคำว่า
>>>>>>> ให้โอกาสสำหรับเรื่องที่สามารถให้โอกาสได้ด้วยเสมอครับ
>>>>>>> เพราะทุกคนย่อมผิดพลาดกันได้
>>>>>>>
>>>>>>> ทั้ง 7 ข้อนี้ คือกระบวนการที่เรียงลำดับทำไปทีละเรื่องได้เลยครับ
>>>>>>> ลองตั้งกรอบว่าจะแล้วเสร็จได้เมื่อไร
>>>>>>> ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กรและพื้นฐานเดิมขององค์กรด้วยครับ
>>>>>>> แต่ไม่น่าจะน้อยกว่า 2 ปี ต้องค่อย ๆ ทำไปครับ
>>>>>>> อาจจะไม่ต้องเรียงลำดับตามนี้ก็ได้
>>>>>>> คิดว่าเรื่องไหนพร้อมก็ทำได้เลยครับ ยกเว้นข้อ 1. ครับ
>>>>>>> ที่ต้องทำก่อนที่จะทำเรื่องอื่น ๆ
>>>>>>>
>>>>>>> เราไม่สามารถห้ามความคิดคนได้
>>>>>>> แต่เราสามารถสร้างกรอบให้เค้าคิดโดยใช้การวางระบบต่าง ๆ
>>>>>>> เป็นเครื่องมือหรือเป็นอาวุธของ HR. ได้ครับ
>>>>>>>
>>>>>>> หากต้องการปรึกษาเพิ่มเติมเรื่องอะไรก็ยินดีนะครับ mail มาได้เลย
>>>>>>> อดิศร
>>>>>>> ------------------------------
>>>>>>> Date: Wed, 8 Dec 2010 00:54:13 +0700
>>>>>>>
>>>>>>> Subject: [SIAMHRM.COM <http://siamhrm.com/> :31127]
>>>>>>> ขอความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติสำหรับการออกใบรับรองการผ่านงาน
>>>>>>> From: sbenjar2007@gmail.com
>>>>>>> To: siamhrm@googlegroups.com
>>>>>>>
>>>>>>>
>>>>>>> เรียนเพื่อนๆชาวHRทุกท่าน,
>>>>>>> ดิฉันมารับงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกบุคคลมาได้3ปีเต็มรู้สึกขัดแย้งและอึดอัดกับหน้าที่ของตนเองมากโดยส่วนตัวแล้วไม่ได้เรียนทางด้านนี้มาโดยตรง
>>>>>>> จบพยาบาลและมาต่อบริหารธุรกิจค่ะเหตุผลที่มาทำงานทางHRก็เพราะอยากทำงานอะไรใหม่ๆที่รู้สึกว่าท้าทายดีตอนทีรับงานใหม่ก็สนุกดีคะมีโครงการที่จะทำอะไรเต็มไปหมดแล้วบริษัทฯที่ทำอยู่ก็เป็นบริษัทฯเล็กที่โตเร็วผู้บริหารต้องการ
>>>>>>> ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบริษัทฯให้มีรูปแบบที่ทันสมัยทันต่อเหคุการณ์การเปลี่ยนแลงของทิศทางธุรกิจที่กำลังขยายตามแบบผู้บริหารเด็กนอกรุ่นใหม่ไฟแรงนะค่ะแต่พอซักพักดิฉันก็รู้สึกว่าทางมันตันไปหมดเพราะทุกเรื่องมี่แต่ไอเดียบรรเจิดพอปฏิบัติก็ขาดคนร่วมมือในขณะที่ระดับบริหารก็มีแค่เพียงความสนใจที่จะเปลี่ยนแปลงแต่พอปฏิบัติจริงแล้วก็ยังยึดติดกับธรรมเนียมการปฏิบัติอย่างเก่าพร้อมกับเหตุผลเดิมๆว่าทำไม่ได้หรอกเราธุรกิจรับเหมาโดยธรรมชาติแล้วเป็นแบบนี้พนักงานมาทำงานสายมากเวลางาน8.00-17.00น.ยอมให้สายได้ถึง8.45น.พนักงานบางคนขาดงานเป็นประจำทุกเดือน5-8วันก็ยังอยู่ได้สบายใจไม่ต้องกลัวถูกไล่ออกเพราะผู็บริหารไม่หักเงินไม่ไล่ออกเพราะกลัวพนักงานจะเสียขวัญและกำลังใจพอถึงสิ้นปีก็รับโบนัสกันตามปกติ
>>>>>>> ปีใหม่พิจารณาเงินเดือนมีบางฝ่ายที่ลูกน้องทำงานเยอะพอเห็นลูกน้องคนอื่นแย่ๆจะได้ขึ้นเกินก็คัดค้านให้ดองไม่ปรับเงินเดือนก็จะมีการไม่ขึ้นเงินเดือนบ้างแต่พอซักพักพนักงานคนที่ถุกค้านไม่ให้ขึ้นเงินเดือนร้องเรียนทำท่าจะลาออกหน่อยก็จะปรับกันกลางปี
>>>>>>> เลยกลายเป็นว่าไม่ต้องมีผลงานอยากเลื่อนตำแหน่งอยากปรับเงินเดือนก็ให้แสดงท่าทีว่าจะลาออกแล้วบอกว่าที่ใหม่ให้เงินเดือนสูงกว่าก็ได้เลื่อนตำแหน่งตามต้องการ
>>>>>>> แล้ว
>>>>>>> พนักงานก็จะเอาไปพูดต่อๆไปถึงเทคนิคลัดขั้นตอนนี้แล้วก็ทำตามกันจนเป็นเรื่องปกติโดยเฉพาะพวกตำแหน่งวิศวกรและโฟร์แมนคุมงาน
>>>>>>> พนักงานเขียนแบบ
>>>>>>> เจ้าหน้าที่บุคคลอย่างดิฉันบางครั้งเลยต้องทำตัวเป็นนางมารคอยสกัดดาวรุ่งคือวางสายคอยสกัดกั้นเมล์หรือmemmomoที่จะถึงMDโดยตรงไม่ให้ถึงมือเจ้านายใจดีแต่ก็กันไม่ได้หมดหรอกคะบางคนก็รู้แกวก็จะเก็บไว้รอส่งให้นายตอนนายไปตรวจงานที่siteเองคราวนี้
>>>>>>> เมื่อประมาณเดือนตุลาคมทีผ่านมามีพนักงานเริ่มลาออกกันหลายคนและขอใบผ่านงานกันมาก
>>>>>>> ดิฉันจึงคิดว่าน่าจะใช้ใบผ่านงานเป็นเครื่องมือสำหรับควมคุมพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของพนักงานจึงประกาศแจ้งว่าต่อไปพนักงานท่านใดมาสายหรือขาดงานโดยไม่ยื่นใบลาให้ถูกต้องตามระเบียบเกิน
>>>>>>> 3ครั้งต่อเดือน
>>>>>>> จะถูกนำประวัติการทำผิดนำมาลงในใบผ่างานด้วยซึ่งประวัติที่เคยมีมาก่อนหน้านี้แล้วจะไม่นับเริ่มนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ประกาศแจ้งเท่านั้น
>>>>>>> ผลปรากฎว่าลดจำนวนผู้ขาดงานโดยไม่ลาได้บางส่วนจำนวนผู้มาสายก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่พอจะออกใบผ่านงานสำหรับดาวดวงเด่นที่ทำผิดระเบียบจริงก็รู้สึกทำไม่ลงเกรงว่าจะเป็นการตัดอนาคตพนักงานผู้นั้นเพราะที่ไหนเห็นก็คงไม่อยารับเข้าทำงานหรอกลักษณะของการออกใบผ่านงานดิฉันก็จะใช้รูปแบบทั่วไปแล้วเพิ่มหัวข้อผลการประเมินพนักงานเข้าสำหรับคนที่ทำงานดีก็จะระบุว่าผ่านการประเมินด้านความสามารถในการทำงานตามเกณฑ์การประเมินของบริษัทฯแต่ต้องปรับปรุงความรับผิดชอบและการรักษากฏระเบียบข้อบังคับในการทำงานเนื่องจากมีประวัติขาดงานโดยไม่ลาประจำเดือนละ5-9วันตลอดระยะเวลาการทำงาน
>>>>>>> ระหว่างที่เขียนก็รู้สึกสองจิตสองใจนะคะว่าแรงไปหรือเปล่าเราจะทำลายอนาคตเขาหรือเปล่าถ้าเขาเป็นกำลังหลักของครอบครัวแล้วไม่สามารถหางานทำได้ครอบครัวเขาจะเป็นอย่างไร
>>>>>>> แต่พอจะปล่อยไปเฉยๆก็รุ็สึกสงสารบริษัทฯที่จะได้รับคนอย่างนี้เข้าไปทำงาน
>>>>>>> แล้วสมควรแล้วหรือที่จะปล่อยคนที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้อยู่สบายในสังคมต่อไปโดยไม่ทำอะไรให้รู้จักสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองและต่อผู้อื่น
>>>>>>> บางทีดิฉันก็คิดว่าน่าจะเขียนความจริงแบบนั้นดีแล้วเค้าจะได้มีบทเรียนบ้างอาจทำให้ไม่กล้าทำแบบนี้ต่อไปและปรับปรุงพฤติกรรมให้ดีขึ้นเพราะปกติเราใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผลใบเตือนก็ออกกันจนเบื่อสิ้นเปลืองกระดาษเปล่าไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นบริษัทฯให้โอกาสตลอดมาไม่เคยมีผลดีอะไร
>>>>>>>
>>>>>>> ไม่ทราบเพื่อนเจอปัญหาทำนองนี้บ้างหรืเปล่าคะแล้วแก้ไขปัญหากันอย่างไรขอความกรุณาช่วยแชร์ประสบการณ์กันบ้างนะคะ
>>>>>>> ขอบคุณค่ะ
>>>>>>> ศุภวรรณ เบญจรัตนาภรณ์
>>>>>>>
>>>>>>>
>>>>>>> --
>>>>>>> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล
>>>>>>> -
>>>>>>>
>>>>>>> แนะนำ :
>>>>>>>
>>>>>>> http://www.JobSiam.com <http://www.jobsiam.com/> : โปรโมชั่น*!
>>>>>>> ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2 เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
>>>>>>> http://www.SiamHRM.com <http://www.siamhrm.com/> : สยามเอชอาร์เอ็ม
>>>>>>> ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
>>>>>>> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
>>>>>>> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>>>>>>>
>>>>>>> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
>>>>>>> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
>>>>>>> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่
>>>>>>> siamhrm@googlegroups.com
>>>>>>> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
>>>>>>> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com<siamhrm%2Bunsubscribe@googlegroups.com>(ยืนยัน
>>>>>>> การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
>>>>>>> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
>>>>>>> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
>>>>>>> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
>>>>>>> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
>>>>>>> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>>>>>>>
>>>>>>
>>>>>> --
>>>>>> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล
>>>>>> -
>>>>>>
>>>>>> แนะนำ :
>>>>>>
>>>>>> http://www.JobSiam.com <http://www.jobsiam.com/> : โปรโมชั่น*!
>>>>>> ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2 เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
>>>>>> http://www.SiamHRM.com <http://www.siamhrm.com/> : สยามเอชอาร์เอ็ม
>>>>>> ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
>>>>>> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
>>>>>> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>>>>>>
>>>>>> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
>>>>>> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
>>>>>> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่
>>>>>> siamhrm@googlegroups.com
>>>>>> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
>>>>>> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com<siamhrm%2Bunsubscribe@googlegroups.com>(ยืนยัน
>>>>>> การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
>>>>>> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
>>>>>> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
>>>>>> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
>>>>>> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
>>>>>> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>>>>>>
>>>>>
>>>>>
>>>>
>>>
>>
>
> --
> - โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
>
> แนะนำ :
>
> http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2
> เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
> http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
> http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update.
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>
> คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม
> "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
> - หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
> - หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่
> siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
> - หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่
> http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
> - เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท
> และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
> ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
>


--
UncleTong Paradise...

--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -

แนะนำ :

http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรี สูงสุด 2 เดือน ถึง 31 ธันวาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ไม่มีความคิดเห็น: