วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

[SIAMHRM.COM :18769] ตลาดต่างประเทศ


ตลาดหุ้นนิวยอร์ค:ตัวเลขศก.กดดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 203 จุด
 
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 3 เดือนในวันพฤหัสบดี หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนกังวลกับความอ่อนแอของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
 
        ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดดิ่งลง 203.00 จุด หรือ 2.09 % สู่ 9,509.28, ดัชนี S&P 500 ปิดร่วงลง 27.23 จุด หรือ 2.58 % สู่ 1,029.85 และดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง 64.94 จุด หรือ 3.06 % สู่ 2,057.48
 
        ปริมาณซื้อขายหนาแน่นราว 1.60 พันล้านหุ้นในตลาดนิวยอร์ค และราว 2.69 พันล้านหุ้นในตลาด Nasdaq ขณะที่จำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วนราว 5 ต่อ 1 ในตลาดนิวยอร์ค และ 11 ต่อ 2 ในตลาด Nasdaq
 
        สถาบันจัดการอุปทาน (ISM) รายงานว่าดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานทั่วสหรัฐร่วงลงในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. และอยู่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์
 
        ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ในระดับเลวร้ายกว่าที่คาด
 
        นักวิเคราะห์กล่าวว่าข่าวเหล่านี้ทำให้นักลงทุนเพิ่มความกังวลก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย.ออกมาในวันศุกร์นี้    (รอยเตอร์)
 
 
 
ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค:กังวลอิหร่านหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 21 เซนต์
 
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดทะยานขึ้นในช่วงท้ายวันพฤหัสบดีโดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องเพราะอุปสงค์เพิ่มขึ้น
 
        ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนพ.ย.ทะยานขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.3 % มาปิดตลาดที่ 70.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 69.13-71.39 ดอลลาร์
 
        ราคาน้ำมันดิบเคลื่อนตัวในแดนลบเกือบตลอดทั้งวัน โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด และจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ซึ่งทำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์
 
        ปัจจัยที่จำกัดช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมันดิบในวันพฤหัสบดีรวมถึงสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันกลั่นของสหรัฐที่ระดับสูง, การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน(โอเปก) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย. และการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันทางทะเลของกลุ่มโอเปกในช่วงครึ่งแรกของเดือนต.ค.จะเพิ่มสูงขึ้น
 
        ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า อุปทานน้ำมันโอเปกเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนหลักจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากไนจีเรียและแองโกลา   (รอยเตอร์)
 
 
 
ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปิดลบหลังดอลล์บวก,นักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง
 
ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดต่ำลงในวันพฤหัสบดี โดยอยู่เหนือ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์เพียงเล็กน้อย ในขณะที่การพุ่งขึ้นของดอลลาร์ ท่ามกลางการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ บั่นทอนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะการประกันความเสี่ยงต่อการอ่อนค่าของดอลลาร์
 
        สัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 998.80-1,011.10 ดอลลาร์ซึ่งเป็นราคาสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.  
 
        ทองถูกถ่วงโดยค่าดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่ดัชนีการผลิตเดือนก.ย. ของสหรัฐ อยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาดไว้  นอกจากนี้ อุปสงค์ที่อ่อนแอในตลาดส่งมอบปัจจุบันจากประเทศผู้บริโภคทองที่สำคัญ ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเข้าซื้อ
 
        สำหรับราคาโลหะมีค่ามีดังต่อไปนี้  
 
                  ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์) 
 
 ทองเดือนธ.ค.     1,000.70                  -  8.60   
 
 เงินเดือนธ.ค.        16.440                 - 21.80 (เซนต์) 
 
พลาตินั่มเดือนม.ค.  1,289.30                  - 13.60 
 
 พัลลาเดียมเดือนธ.ค.  292.95                  -  6.25   (รอยเตอร์)
 
 
 
ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์พุ่งขึ้นขณะนักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง
 
ดอลลาร์พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรและตะกร้าเงินในวันพฤหัสบดี ขณะที่ข้อมูลตลาดงานและการผลิตที่น่าผิดหวังทำให้เกิดความวิตกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และหนุนความน่าสนใจของดอลลาร์ในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย  ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 89.690 เยน เทียบกับระดับปิดตลาดวันพุธที่ 89.750 เยน  ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4537 ดอลลาร์ และ 130.38 เยน เทียบกับระดับปิดตลาดวันพุธที่ 1.4635  ดอลลาร์และ 131.35 เยน
 
        ยูโรถูกกดดันมากเป็นพิเศษ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูโรโซนกล่าวว่า รมว. คลังในยูโรโซนจะหารือเรื่องการแข็งค่าของยูโรในช่วงที่ผ่านมาก่อนการประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี-7 ในสุดสัปดาห์นี้
 
        เทรดเดอร์ยังพุ่งความสนใจไปที่ความเห็นของนายโจควิน อัลมูเนีย กรรมาธิการ กิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป ซึ่งกล่าวว่า จะมีการหารือเรื่องการแข็งค่าของยูโรในการประชุมของเจ้าหน้าที่กลุ่มจี-7 ที่กรุงอิสตันบูลในสุดสัปดาห์นี้
 
        ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่การเงินทั่วโลกได้แสดงความวิตกต่อการแข็งค่าของค่าเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งร่วงลงกว่า 6% เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินในไตรมาส 3   ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.7% มาที่ 77.207
 
        นักลงทุนยังระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์ ซึ่งโพลล์รอยเตอร์คาดว่าจะมีการลดการจ้างงาน 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. อย่างไรก็ดี ข้อมูลเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดีก็มีจุดที่สดใสบ้าง อาทิ การใช้จ่ายส่วนบุคคลที่แข็งแกร่งในเดือนก.ย. และข้อมูลยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายที่สดใสในเดือนส.ค. แต่นักลงทุนพุ่งความสนใจไปที่ดัชนีภาคการผลิตที่ออกมาแย่กว่าคาดของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)   (รอยเตอร์)
 
 
 
ตลาดเงิน Emerging Asia:วอน,ดอลล์ไต้หวันร่วงหลังธ.กลางแทรกแซงตลาด
 
วอนร่วงลงและดอลลาร์ไต้หวันอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่ธนาคารกลางของประเทศเหล่านี้ได้เข้าแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์
 
        วอนอ่อนค่าลงราว 0.1% มาที่ 1,179.10 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ดีลเลอร์รายงานว่าทางการส่งคำสั่งขายวอน ออกมาทันที หลังจากกระทรวงการคลังเตือนว่า อาจจะดำเนินการเพื่อตอบโต้พฤติกรรม"เลียนแบบตามกัน" หรือ herd behavior ในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
 
        ดอลลาร์ไต้หวันบวก 0.3% มาที่ 32.118 ต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากพุ่งสูงสุดที่ 32.04 ต่อดอลลาร์สหรัฐในช่วงเช้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่  2 ต.ค.ปีที่แล้ว  ดีลเลอร์กล่าวว่า ธนาคารกลางไต้หวันได้เข้าแทรกแซงในตลาดเพื่อสกัดกั้นดอลลาร์ไต้หวันในช่วงเวลาเดียวกับที่ธนาคารกลางเกาหลีเปิดเผยว่าพร้อมจะดำเนินการในตลาดถ้ามีความจำเป็น
 
        เปโซปรับตัวขึ้น 0.4% สู่ 47.19 ต่อดอลลาร์ ขณะที่ตลาดเตรียมรับเงินทุนไหลเข้ามากขึ้นจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์จะยังคงรักษาจุดยืนด้านนโยบายการเงินในการทบทวนนโยบายวันนี้ 
 
                เงินบาทอ่อนค่าลง จากแรงซื้อคืนดอลลาร์ รวมทั้งเป็นไปตามสกุลเงินต่างประเทศ อยู่ที่ 33.45/49 จาก 33.39/44 เมื่อช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 33.47/50 จาก 33.40/43 ช่วงเช้า  (รอยเตอร์)      
 
 
 
ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ (1 ต.ค.)    บวก 64 จุด หรือ 2.88 % สู่ 2284 ระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 4291 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 772  ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554   ระดับปิดสูงสุดของปีที่แล้วอยู่ที่ 11793 และระดับปิดต่ำสุดของปีที่แล้วอยู่ที่ 663 
 
        ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:- 
 
          วันที่                  ระดับปิด         เปลี่ยนแปลง (จุด) 
 
       30 ก.ย.                  2220                +35
 
       29 ก.ย.                  2185                 -7 
 
       28 ก.ย.                  2192                 +9 
 
       25 ก.ย.                  2183                +20 
 
       24 ก.ย.                  2163                -12    (รอยเตอร์)
 
 

 


--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
       - ร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล  -

แนะนำ :

http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ประกาศตำแหน่งงาน แถมฟรีสูงสุด 3 เดือน ถึง 30 ตุลาคม 52 นี้

http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
-  หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
-  หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
-  หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

ไม่มีความคิดเห็น: