วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552

[SIAMHRM.COM :21664] บริษัทประกันภัยจะเป็นสหกรณ์ได้ไหม ?

เป็นที่ชัดแจ้งแล้วว่า ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เอาประกันและผู้ประกันนั้นมิใช่เป็นความสัมพันธ์ ระหว่างหุ้นส่วน ดังนั้นปัญหาจึงมีว่าลักษณะของความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร? มันเป็นความสัมพันธ์แบบการร่วมมือกันอย่างนั้นหรือ? บริษัทประกันภัยทั้งหลายจะถูกถือว่า เป็นสหกรณ์ที่ดำเนินงานโดยสมาชิก เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยที่สมาชิกแต่ละคนจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเป็นหุ้นส่วนได้ไหม ?
        
         เพื่อที่จะสร้างระบบสหกรณ์บนพื้นฐานที่มั่นคงแข็งแรง ในกลุ่มที่ต้องการจะช่วยสมาชิกของตนเมื่อประสบภัยพิบัติที่มิได้คาดคิด การเก็บเงินจากสมาชิกจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
1. สมาชิกทุกคนที่ชำระเงินส่วนของตน จะต้องจ่ายเงินนั้นเหมือนการบริจาคด้วยวิญญาณแห่งความเป็นพี่น้องกัน และจากเงินนี้เองที่จะถูกนำไปช่วยเหลือผู้ที่จำเป็น
2. ถ้าหากว่าจะมีการนำเงินเหล่านี้ส่วนหนึ่งไปลงทุน จะต้องถูกนำไปลงทุนในธุรกิจที่ หะลาล หรือได้รับอนุญาตเท่านั้น
3. ไม่เป็นที่อนุญาตให้สมาชิกบริจาคส่วนของตนโดยมีเงื่อนไขว่า เขาจะต้องได้รับเงินจำนวนเท่านั้นเท่านี้เมื่อเกิดมีภัยพิบัติขึ้น แต่เขาจะได้รับความช่วยเหลือในจำนวนเงินที่จะชดเชยความเสียหาย หรือชดเชยให้ส่วนหนึ่ง ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงินที่มีอยู่ในกลุ่ม
4. สิ่งที่ให้ไปแล้วนั้น เป็นของขวัญจากผู้ให้ และการเอามันกลับมา ถือเป็นการ หะรอม หรือต้องห้าม 

          นอก จากสหกรณ์และสมาคมมุสลิมบางสมาคม ที่สมาชิกจ่ายเงินบริจาคให้เป็นรายเดือนโดยไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะเอามันกลับคืนและจะมากำหนดเงื่อนไขไม่ได้ว่า จะต้องได้รับเท่านั้นเท่านี้ในกรณีที่ได้รับภัยพิบัติแล้ว เงื่อนไขเหล่านี้จะต้องไม่มีด้วย
บริษัทประกันภัยต่างๆโดยเฉพาะบริษัทประกันชีวิตนั้น ไม่ชอบใจเงื่อนไขดังกล่าวก็เพราะ
1. ผู้ที่เอาประกันไม่จ่ายเบี้ยประกันเป็นการบริจาค และความคิดเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นแก่พวกเขา
2. บริษัทประกันภัยเอาเงินของพวกเขาไปลงทุนในธุรกิจให้กู้ยืมโดยคิดดอกเบี้ย ซึ่งธุรกิจเช่นนี้ทั้งหมดเป็นที่ หะรอม (ต้องห้าม) และมุสลิมถูกห้ามมิให้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมดังกล่าว เรื่องนี้บรรดานักกฎหมายอิสลามต่างเห็นพ้องต้องกันหมด
3. ในกรณีที่ผู้เอาประกันอยู่จนครบสัญญา เขาจะได้รับเงินเบี้ยประกันทั้งหมดที่เขาจ่ายไปบวกกับเงินเพิ่มจำนวนหนึ่ง ซึ่งมิใช่อื่นใดนอกจากดอกเบี้ย ยิ่งไปกว่านั้น การประกันภัยที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ยังขัดกับแนวความคิดแห่งการร่วมมือในหมู่ประชาชนอีกด้วย กล่าวคือ

         ขณะที่หลักการแห่งความร่วมมือกันกำหนดว่า คนยากจนและคนขัดสนจะต้องได้รับความช่วยเหลือมากกว่าคนรวย แต่คนรวยที่สามารถจ่ายเบี้ยประกันสูงจะได้รับเงินคืนเมื่อตายหรือได้รับ อุบัติเหตุมากกว่าคนยากจน การเปลี่ยนแปลงแก้ไข การประกันวินาศภัยสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขให้เข้าอยู่ในลักษณะที่ใกล้ชิด กับหลักการของอิสลามได้โดยวิธีการทำสัญญา บริจาคโดยมีเงื่อนไขว่าจะได้รับการชดเชย กล่าวคือ ผู้เอาประกันอาจจะให้เงินจำนวนหนึ่งแก่บริษัท โดยมีเงื่อนไขว่า บริษัทจะให้เงินชดเชยแก่เขาเมื่อเขาประสบภัยพิบัติในจำนวนที่จะช่วยเหลือและ แบ่งเบาภาระการสูญเสียแก่เขา  การทำธุรกิจประเภทนี้เป็นที่ได้รับอนุญาตในมัสฮับต่างๆ บางมัสฮับ (สำนักแนวความคิดในการตีความกฎหมายอิสลาม)  

          ถ้าหากการปรับปรุงแก้ไขนี้มีผล และถ้าบริษัทไม่เข้าไปเกี่ยวพันกับธุรกิจดอกเบี้ยแล้ว เราอาจประกาศได้ว่า การประกันวินาศภัยเป็นสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมายได้ อย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องประกันชีวิตนั้น เห็นว่ายังห่างไกลจากการดำเนินธุรกิจแบบอิสลามอยู่มาก

--
- ร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
 
แนะนำ :
 
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ประกาศรับสมัครงาน สำหรับนักสรรรหา มืออาชีพ พร้อมรับส่วนลด มากมาย ถึง 31 ธันวาคม 2552 นี้ เท่านั้น
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
 
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ไม่มีความคิดเห็น: