ความต่างระหว่างคนหน้ามืดกับคนตาสว่าง
คนหน้ามืดเห็นความทุกข์กดดันให้ปล่อยตัวตกสู่ที่ต่ำ
ส่วนคนตาสว่างเห็นความทุกข์ผลักดันให้เร่งถีบตัวขึ้นที่สูง!
ความทุกข์เป็นสิ่งที่มีพลัง
ไม่สำคัญว่าคุณกำลังเป็นทุกข์แค่ไหน
แต่สำคัญว่าคุณเห็นทุกข์เป็นพลังประเภทใด
พลังกดดันให้ยอมแพ้
หรือพลังผลักดันให้อยากเอาชนะ
ถ้ามองเป็น จะเห็นคุณค่าของความทุกข์
แม้พระพุทธองค์ก็ตรัสว่านิพพานอันประเสริฐสุด
ก็เข้าถึงได้ด้วยแรงผลักดันของความทุกข์
ถ้าไม่มีทุกข์อยู่บ้างก็คงไม่มีเวไนยสัตว์ใดเลย
ที่ปรารถนาพระนิพพานอันเป็นความดับทุกข์
และเมื่อมองดูกันแบบโลกๆ
ก็ไม่มีคนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่ไหนหรอกครับ
ที่นั่งสบายอยู่บนรถเข็นมาตั้งแต่เกิด
พวกเขาต่างก็ต้องหัดลุกจากการล้ม
หรือใช้มือใช้เท้าถีบตัวจากที่ต่ำขึ้นที่สูงกันทั้งสิ้น
เกิดทุกข์แล้วห้อยมือห้อยเท้านิ่ง
เรียกว่ากำลังหน้ามืด
แต่เป็นทุกข์แล้วเคลื่อนไหวไปหาสุข
เรียกว่ากำลังตาสว่างครับ!
ดังตฤณ
กุมภาพันธ์ ๕๕
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ
ในเวลาที่เกิดปัญหา หลายคนอาจรู้สึกว่าการแก้ปัญหาทางโลกและทางธรรมนั้นขัดแย้งกัน
และคิดไม่ตกว่าควรทำอย่างไร
คุณงดงามได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจในคอลัมน์ “เพื่อนธรรมจารี”
ตอน “ทางโลกและทางธรรม” ค่ะ
ใครที่กำลังป่วย ขอแนะนำคอลัมน์ “เรื่องสั้นอิงธรรมะ”
ฉบับนี้ คุณฟ้าหลังฝนและ ‘หนูดี’ จะพาคุณไปเรียนรู้ธรรมะจากการ “ป่วย”
ติดตามได้ในฉบับนะคะ
ส่วนใครที่เคยสงสัยนามปากกาคุณ aston27 ว่ามีที่มาจากไหน
คอลัมน์ “ธนาคารความสุข” ฉบับนี้มีเฉลยให้ค่ะ
คอบอลทั้งหลายพลาดไม่ได้ในตอน “ปืนผีสิงห์ไก่เรือใบหงส์”
~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~
พบกันใหม่พฤหัสหน้า
ที่ www.dlitemag.com นะคะ
สวัสดีค่ะ (^__^)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น