จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว - ฉบับที่ ๑๘๖
ข้อแม้ในการให้ทาน
ยิ่งตั้งข้อแม้ในการให้ทานมากขึ้นเท่าไร
ยิ่งไม่ใช่การให้ทานมากขึ้นเท่านั้น
พระพุทธเจ้าสอนไว้โดยใจความสรุปว่า
กาลอันเหมาะที่จะให้ทาน
คือกาลที่มีความเต็มใจใคร่อนุเคราะห์
ตลอดจนมีความอิ่มใจที่ได้ให้ทาน
และด้วยเหตุนั้น ท่านจึงตรัสแนะว่า
ถ้าอยากให้ทานด้วยความพร้อมเมื่อใด
ก็จงให้ทานเสียเมื่อนั้น อย่าได้รีรอลังเล
ขอให้สังเกตว่า ความอยากให้
ตลอดจนความอิ่มใจที่ได้ให้
มักลดลงตามสัดส่วนของเงื่อนไขทางความคิด
เช่น ถ้าแลกได้อย่างนั้น ฉันถึงจะให้อย่างนี้
หรือคิดๆอยู่ว่าถ้าให้ไป เขาจะคิดถึงบุญคุณเราหรือเปล่า
หรือถวายแล้วท่านจะเอาไปใช้หรือเอาไปทิ้ง ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม มีทานบางประเภทไม่ควรให้เลย
แม้จะคิดสงเคราะห์ก็ตาม เช่น
รู้อยู่ว่าให้แล้วเขาจะเอาไปใช้ในทางผิดศีลผิดธรรม
แม้นึกสนุก แม้อิ่มใจอยากให้ ก็ไม่ควรให้
เพราะการรู้อยู่ว่าเขาจะนำไปทำผิด
เท่ากับส่งเสริมให้คนทำผิดด้วยทุนทรัพย์แห่งตน
บุญที่ได้มา นับเป็นบุญในทางส่งเสริมให้คนก่อบาป
เมื่อใดบุญเผล็ดผล ก็มักให้ผลในทางผลักดันให้คิดอกุศล
ตัดสินใจในทางอกุศล
แต่กลับได้กำลังจากบุญเก่าให้ทำได้สำเร็จ
หรือมีคนมาสนับสนุนให้ก่อบาปได้สมใจ
เป็นที่ชื่นชมของตนเองและหมู่คนหลงผิดได้
ดังตฤณ
พฤศจิกายน ๕๖
แนะนำคอลัมน์
--
---
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณสมัครรับข้อมูลจากกลุ่ม "ธรรมะใกล้ตัว" ของ Google Groups
หากต้องการยกเลิกการสมัครรับข้อมูลและหยุดรับอีเมลจากกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ dharma-at-hand+unsubscribe@googlegroups.com
หากต้องการดูตัวเลือกเพิ่มเติม กรุณาดูที่
https://groups.google.com/groups/opt_out
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น