วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

[SIAMHRM.COM :21093] :ความเห็นนักวิเคราะห์ หลังสภาพัฒน์เผยจีดีพี Q3/52 ติดลบ 2.8%

 

xBR> INSTANT VIEW:ความเห็นนักวิเคราะห์ หลังสภาพัฒน์เผยจีดีพี Q3/52 ติดลบ 2.8%

 

        กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--รอยเตอร์

 

 

 

        คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)

 

ของไทย ในไตรมาส 3/52 ติดลบ 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะลดลง

 

3.3% และเป็นการหดตัวน้อยที่สุดในรอบปีนี้ ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ จีดีพีโดยรวมติดลบ 5.0%

 

        แต่เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จีดีพีขยายตัว 1.3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะขยายตัว 2.3%

 

        สภาพัฒน์ยังคงตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 2 ติดลบ 4.9% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่เพิ่มขึ้น

 

2.2% จากไตรมาสก่อนหน้า

 

        ก่อนหน้านั้น นักเศรษฐศาสตร์ 8 รายในโพลล์รอยเตอร์ คาดว่า จีดีพีของไทยอาจเติบโต

 

2.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังเติบโต 2.2% ในไตรมาส 2 และหดตัวลง 1.8% ในไตรมาสแรก

 

นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยอาจเริ่มมีอัตราเติบโตต่อปีเป็นบวกในไตรมาส 4 ของปีนี้

 

และฟื้นตัวขึ้นต่อไปในปีหน้า

 

        สำหรับไตรมาส 4/52 สภาพัฒน์คาดจีดีพีเพิ่มขึ้น 2.7-3.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 

        สภาพัฒน์ยังคาดการณ์จีดีพีของไทยในปี 53 จะกลับมาเติบโต 3.0-4.0% จากที่คาดจะติดลบ 3.0% ในปีนี้

 

        ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่า จีดีพีปี 53 จะขยายตัว 3.5% ส่วนปี 52 คาดว่าจีดีพีจะติดลบ

 

3.2% ขณะที่เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าปี 52 เศรษฐกิจไทยจะติดลบ 3.0-3.5%

 

        สภาพัฒน์ยังคาดมูลค่าการส่งออกในปี 52 ลดลง 13.7% จากเดิมคาดติดลบ 16.3% ส่วนการนำเข้า

 

คาดว่าจะลดลง 26.1% จากที่คาดติดลบ 24.2% ขณะที่คาดว่า ปี 52 ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด

 

2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมคาดเกินดุล 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์

 

        สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี 52 คาดติดลบ 0.9% จากเดิมคาดติดลบ 0.5% ถึงติดลบ 1.0%

 

        ส่วนปี 53 สภาพัฒน์คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทย จะกลับมาขยายตัว 10.0% ส่วนการนำเข้า

 

คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18.5% ขณะที่คาดว่าไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์

 

        สำหรับอัตราเงินเฟ้อในปี 53 คาดจะเพิ่มขึ้น 2.5-3.5%

 

 

 

        ความเห็นของนักวิเคราะห์ต่อตัวเลขเศรษฐกิจของสภาพัฒน์ เป็นดังนี้:-

 

 

 

        นางสาวพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

 

        "ในมุมมองของเรา การปรับอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ชาติน่าจะยังไม่เกิดขึ้นไปจนกระทั่ง

 

Q2 ของปีหน้า คือแม้ headline inflation จะยังดูสูง แต่ core (CPI)

 

ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายประมาณการเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ ขณะเดียวกัน

 

ปัจจัยการเมืองจะยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ

 

ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นได้ในปีหน้า"

 

        "ตัวเลขจีดีพีที่ออกมา อย่าง year on year ค่อนข้างดีกว่าที่เราคาดการณ์ที่ ลบ 3.3%

 

เพราะฉะนั้นถ้าดูจากแนวโน้มแล้ว ก็ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ในแง่ของประมาณการส่งออกปีหน้า

 

เรามองไว้ค่อนข้างสูงกว่าสภาพัฒน์ฯ ที่กรอบ 18-22%"

 

 

 

        นางสาวนุชจรินทร์ ปัณรส นักเศรษฐศาสตร์ บล.พัฒนสิน

 

        "โดยภาพรวมถือว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งนี้ เป็นผลบวกต่อตลาด เนื่องจากตัวเลข

 

year on year ติดลบน้อยกว่าที่คาด ขณะที่ตัวเลข Q on Q แม้จะโตน้อยกว่าที่คาดไว้

 

แต่ก็มีการแสดงการเติบโตที่เป็นบวก 2 ไตรมาส ติดต่อกันแล้ว จริงๆ แล้ว

 

สภาพัฒน์อาจจะกล่าวได้ว่าประเทศเราน่าจะหลุดจาก recession แล้ว ตามนิยาม"

 

        "สำหรับทั้งปี การคาดการณ์จีดีพีเรา เป็นไปตามที่สภาพัฒน์คาดว่าจะติดลบ 3%

 

และเศรษฐกิจน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในไตรมาส 4 สำหรับปีหน้ามองว่า demand และ supply

 

ของประเทศได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว และอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะเป็นขาขึ้น

 

เรายังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีหน้า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลข

 

CPI ว่ามีอัตราการเร่งขึ้นมากน้อยแแค่ไหน โดยทั้งปีเรามองว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับขึ้นได้

 

1% ในทั้งปีหน้า เป็น 2.25% ในสิ้นปี 2010"

 

 

 

        นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด(ไทย)

 

        "การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นทีละเล็กละน้อย

 

อันเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นทางการคลังและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม หากมองไปข้างหน้า

 

แนวโน้มยังมีความไม่แน่นอน ท่ามกลางความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง ขณะเดียวกัน

 

ก็ยังคงมีความไม่แน่ใจว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะดำเนินต่อเนื่องต่อไป

 

และช่วยให้การส่งออกไทยกลับไปอยู่ระดับก่อนเกิดวิกฤติได้"

 

        "สำหรับการคาดการณ์จีดีพีรายปี เรายังคงคาดการณ์ว่าจีดีพีปี 2552 จะติดลบ 3.5% และจะโต

 

2.8% ได้ในปี 2553"

 

 

 

 

 

        -ผลกระทบต่อตลาดหุ้น-เงินบาท

 

        *หุ้นไทยลดลง 0.88% มาที่ 689.16 เมื่อ 11.19 น.

 

หลังสภาพัฒน์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว

 

        *เงินบาท/ดอลลาร์ ล่าสุดอยู่ที่ 33.18/24 เทียบกับ 33.22/27 เมื่อวันศุกร์

 

 

 

        -ข้อมูลแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย, ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนล่าสุด

 

        *กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขการส่งออกเดือน ต.ค.52 ลดลง 2.98% ซึ่งเป็นการหดตัวน้อยสุดในรอบปีนี้

 

และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ หลังเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวขึ้น และการส่งออกในตลาดใหม่มากขึ้น

 

ขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ไทยมีมูลค่าส่งออก 1.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.6%

 

จากช่วงเดียวกันปีก่อน

 

        *กระทรวงพาณิชย์ ยังคาดว่า การส่งออกทั้งปี 52 จะติดลบ 13-15% ก่อนจะกลับมาเป็นบวกได้

 

10-15% ในปีหน้า

 

        *นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จุดต่ำสุดของ

 

เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นไปแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจไทยรวมถึงเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ก็กำลังฟื้นตัว

 

ซึ่งก็มีการคาดหวังกันว่า การฟื้นตัวในภูมิภาคนี้ จะเป็นตัวนำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

และนายกรัฐมนตรี ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/52 จะกลับมาเป็นบวก แต่ทั้งปี 52 จะยังติดลบ

 

3.0-3.5% ขณะที่คาดปีหน้าจะเติบโต 3.5%

 

        *นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์รอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า

 

เศรษฐกิจไทยอาจเติบโต 5% ในปี 53 หากการเมืองมีเสถียรภาพ แต่ เขาก็ระบุว่าการแข็งค่าของบาท

 

เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง--จบ--

 

 

 

        (โดย ทีมข่าวรอยเตอร์ รายงาน; บุญฤทธิ์ รัตนวราภรณ์ เรียบเรียง--ฉก--)

 

 

         ReutersMessaging:boonrith.rattanavaraporn.reuters.com@reuters.net.))

 

 

 


--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
       - ร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล  -

แนะนำ :

http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ประกาศรับสมัครงาน สำหรับนักสรรรหา มืออาชีพ พร้อมรับส่วนลด มากมาย ถึง 31 ธันวาคม 2552 นี้ เท่านั้น
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
-  หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
-  หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
-  หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

ไม่มีความคิดเห็น: