xBR> INSTANT VIEW:ความเห็นนักวิเคราะห์ หลังสภาพัฒน์เผยจีดีพี Q3/52 ติดลบ 2.8%
กรุงเทพฯ--23 พ.ย.--รอยเตอร์
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)
ของไทย ในไตรมาส 3/52 ติดลบ 2.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดว่าจะลดลง
3.3% และเป็นการหดตัวน้อยที่สุดในรอบปีนี้ ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ จีดีพีโดยรวมติดลบ 5.0%
แต่เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส จีดีพีขยายตัว 1.3% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะขยายตัว 2.3%
สภาพัฒน์ยังคงตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 2 ติดลบ 4.9% เมื่อเทียบปีต่อปี ขณะที่เพิ่มขึ้น
2.2% จากไตรมาสก่อนหน้า
ก่อนหน้านั้น นักเศรษฐศาสตร์ 8 รายในโพลล์รอยเตอร์ คาดว่า จีดีพีของไทยอาจเติบโต
2.3% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังเติบโต 2.2% ในไตรมาส 2 และหดตัวลง 1.8% ในไตรมาสแรก
นักเศรษฐศาสตร์ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยอาจเริ่มมีอัตราเติบโตต่อปีเป็นบวกในไตรมาส 4 ของปีนี้
และฟื้นตัวขึ้นต่อไปในปีหน้า
สำหรับไตรมาส 4/52 สภาพัฒน์คาดจีดีพีเพิ่มขึ้น 2.7-3.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
สภาพัฒน์ยังคาดการณ์จีดีพีของไทยในปี 53 จะกลับมาเติบโต 3.0-4.0% จากที่คาดจะติดลบ 3.0% ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่า จีดีพีปี 53 จะขยายตัว 3.5% ส่วนปี 52 คาดว่าจีดีพีจะติดลบ
3.2% ขณะที่เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา สภาพัฒน์คาดการณ์ว่าปี 52 เศรษฐกิจไทยจะติดลบ 3.0-3.5%
สภาพัฒน์ยังคาดมูลค่าการส่งออกในปี 52 ลดลง 13.7% จากเดิมคาดติดลบ 16.3% ส่วนการนำเข้า
คาดว่าจะลดลง 26.1% จากที่คาดติดลบ 24.2% ขณะที่คาดว่า ปี 52 ไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด
2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ จากเดิมคาดเกินดุล 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี 52 คาดติดลบ 0.9% จากเดิมคาดติดลบ 0.5% ถึงติดลบ 1.0%
ส่วนปี 53 สภาพัฒน์คาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทย จะกลับมาขยายตัว 10.0% ส่วนการนำเข้า
คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 18.5% ขณะที่คาดว่าไทยจะเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 1.46 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในปี 53 คาดจะเพิ่มขึ้น 2.5-3.5%
ความเห็นของนักวิเคราะห์ต่อตัวเลขเศรษฐกิจของสภาพัฒน์ เป็นดังนี้:-
นางสาวพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจมหภาค
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
"ในมุมมองของเรา การปรับอัตราดอกเบี้ยของแบงก์ชาติน่าจะยังไม่เกิดขึ้นไปจนกระทั่ง
Q2 ของปีหน้า คือแม้ headline inflation จะยังดูสูง แต่ core (CPI)
ยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายประมาณการเงินเฟ้อของแบงก์ชาติ ขณะเดียวกัน
ปัจจัยการเมืองจะยังเป็นความเสี่ยงสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้นได้ในปีหน้า"
"ตัวเลขจีดีพีที่ออกมา อย่าง year on year ค่อนข้างดีกว่าที่เราคาดการณ์ที่ ลบ 3.3%
เพราะฉะนั้นถ้าดูจากแนวโน้มแล้ว ก็ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง ในแง่ของประมาณการส่งออกปีหน้า
เรามองไว้ค่อนข้างสูงกว่าสภาพัฒน์ฯ ที่กรอบ 18-22%"
นางสาวนุชจรินทร์ ปัณรส นักเศรษฐศาสตร์ บล.พัฒนสิน
"โดยภาพรวมถือว่าตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งนี้ เป็นผลบวกต่อตลาด เนื่องจากตัวเลข
year on year ติดลบน้อยกว่าที่คาด ขณะที่ตัวเลข Q on Q แม้จะโตน้อยกว่าที่คาดไว้
แต่ก็มีการแสดงการเติบโตที่เป็นบวก 2 ไตรมาส ติดต่อกันแล้ว จริงๆ แล้ว
สภาพัฒน์อาจจะกล่าวได้ว่าประเทศเราน่าจะหลุดจาก recession แล้ว ตามนิยาม"
"สำหรับทั้งปี การคาดการณ์จีดีพีเรา เป็นไปตามที่สภาพัฒน์คาดว่าจะติดลบ 3%
และเศรษฐกิจน่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในไตรมาส 4 สำหรับปีหน้ามองว่า demand และ supply
ของประเทศได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว และอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะเป็นขาขึ้น
เรายังคงคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีหน้า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลข
CPI ว่ามีอัตราการเร่งขึ้นมากน้อยแแค่ไหน โดยทั้งปีเรามองว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับขึ้นได้
1% ในทั้งปีหน้า เป็น 2.25% ในสิ้นปี 2010"
นางสาวอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธ.สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด(ไทย)
"การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ได้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นทีละเล็กละน้อย
อันเป็นผลมาจากนโยบายกระตุ้นทางการคลังและนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม หากมองไปข้างหน้า
แนวโน้มยังมีความไม่แน่นอน ท่ามกลางความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมือง ขณะเดียวกัน
ก็ยังคงมีความไม่แน่ใจว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก จะดำเนินต่อเนื่องต่อไป
และช่วยให้การส่งออกไทยกลับไปอยู่ระดับก่อนเกิดวิกฤติได้"
"สำหรับการคาดการณ์จีดีพีรายปี เรายังคงคาดการณ์ว่าจีดีพีปี 2552 จะติดลบ 3.5% และจะโต
2.8% ได้ในปี 2553"
-ผลกระทบต่อตลาดหุ้น-เงินบาท
*หุ้นไทยลดลง 0.88% มาที่ 689.16 เมื่อ 11.19 น.
หลังสภาพัฒน์แถลงตัวเลขเศรษฐกิจดังกล่าว
*เงินบาท/ดอลลาร์ ล่าสุดอยู่ที่ 33.18/24 เทียบกับ 33.22/27 เมื่อวันศุกร์
-ข้อมูลแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย, ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนล่าสุด
*กระทรวงพาณิชย์ เผยตัวเลขการส่งออกเดือน ต.ค.52 ลดลง 2.98% ซึ่งเป็นการหดตัวน้อยสุดในรอบปีนี้
และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ หลังเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าฟื้นตัวขึ้น และการส่งออกในตลาดใหม่มากขึ้น
ขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ ไทยมีมูลค่าส่งออก 1.24 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 19.6%
จากช่วงเดียวกันปีก่อน
*กระทรวงพาณิชย์ ยังคาดว่า การส่งออกทั้งปี 52 จะติดลบ 13-15% ก่อนจะกลับมาเป็นบวกได้
10-15% ในปีหน้า
*นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า จุดต่ำสุดของ
เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นไปแล้ว ขณะที่เศรษฐกิจไทยรวมถึงเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย ก็กำลังฟื้นตัว
ซึ่งก็มีการคาดหวังกันว่า การฟื้นตัวในภูมิภาคนี้ จะเป็นตัวนำในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
และนายกรัฐมนตรี ยังคาดว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/52 จะกลับมาเป็นบวก แต่ทั้งปี 52 จะยังติดลบ
3.0-3.5% ขณะที่คาดปีหน้าจะเติบโต 3.5%
*นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์รอยเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
เศรษฐกิจไทยอาจเติบโต 5% ในปี 53 หากการเมืองมีเสถียรภาพ แต่ เขาก็ระบุว่าการแข็งค่าของบาท
เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง--จบ--
(โดย ทีมข่าวรอยเตอร์ รายงาน; บุญฤทธิ์ รัตนวราภรณ์ เรียบเรียง--ฉก--)
ReutersMessaging:boonrith.rattanavaraporn.reuters.com@reuters.net.))
--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
- ร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ประกาศรับสมัครงาน สำหรับนักสรรรหา มืออาชีพ พร้อมรับส่วนลด มากมาย ถึง 31 ธันวาคม 2552 นี้ เท่านั้น
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น