- ดีใจจังที่ความคิดไปตรงกันกับคุณอดิศร
- ก็ขอเป็นกำลังใจให้เดินหน้าต่อไปนะครับ
ขอบคุณครับ
เล็กครับ
เมื่อ 28 สิงหาคม 2553, 13:52, adisorn klinpikul <adisorn_pers@hotmail.com> เขียนว่า:
ขอบคุณเช่นกันครับ คุณเล็ก
ข้อเสนอของคุณเล็กเรื่องการกำหนดกฎเกณฑ์ให้ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของ หรือนายจ้าง มาอบรมกระบวนการเหล่านี้
เป็นข้อคิดที่ดีมากครับ ผมก็มีแนวคิดเรื่องนี้เช่นกัน และก็พยายามขยับหรือผลักดันในพื้นที่อยู่ครับ ทำไปได้พอสมควรแล้วโดยอาศัยคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเลยครับ เพราะถ้าคนอื่นลงนาม เจ้าของสถานประกอบการจะไม่มาสัมมนากัน ทำไปได้แล้วรุ่นหนึ่งครับ 40 แห่ง แต่ที่ปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ได้เป็นผลแค่ 17 แห่ง แต่ก็ยังต้องเหนื่อยอีกเยอะครับ โดยเฉพาะต้องมารองบประมาณของราชการ แต่ถ้าผมไม่ทำ ผลกระทบอย่างนี้เราหนีไม่พ้นอยู่ดีครับ
ปัตตานีเป็นเมืองเล็ก ๆ ผลกระทบด้านแรงงานถ้าเกิดขึ้นที่ใดที่หนึ่ง มันจะส่งผลถึงกันได้หมดครับ
อีกทางหนึ่งก็พยายามผลักดันไปที่สำนักพัฒนามาตรฐานแรงงานไทย แต่ก็อีกล่ะครับ ผมเล่นมา 2 ปี แล้วยังไม่เคลื่อนไหวอะไรออกมามากนัก
ติดที่งบประมาณเหมือนเคยครับ
ปีนี้ผมเลยอาศัยตำแหน่งเลขาฯสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เสนอโครงการซะเองเลย
ไม่รอราชการแล้วครับ จัดสัมมนา 5 กระบวนการนี้อย่างละเอียดให้บรรดาเฒ่าแก่ทั้งหลายที่เป็นสมาชิกเราอยู่ เร็ว ๆ นี้ล่ะครับ
ถ้าเริ่มเมื่อไรแล้วมีเอกสารอะไรผมจะโพสเข้าไปในกลุ่มนะครับ
อดิศร
Date: Sat, 28 Aug 2010 13:25:52 +0700
Subject: Re: อ้างถึง: [SIAMHRM.COM :28747] ปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานค่ะ
From: lekhots@gmail.com
To: adisorn_pers@hotmail.com
CC: siamhrm@googlegroups.com
- ขอขอบพระคุณ คุณอดิศรอีกครั้งสำหรับคำแนะนำที่ดีมากๆ ผมเชื่อว่าท่านอื่นๆก็จะสามารถนำไปปรับใช้ได้เหมือนกัน- เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ"คำยืม"จากคุณ Prakal ...เป็นคำที่โดนเอามากๆครับ- คำที่คุณอดิศรบอกว่า"ตายแทนเจ้านายได้" ผมก็ได้ยินมาแล้ว แต่เขาไม่ได้หมายถึงบริษัทครับ หมายถึงลูกพี่เขาคนเดียวแต่กับบริษัท ซึ่งเขาคงจะหมายถึงผู้บริหารระดับสูง HR ,Office , ฯลฯ เขามักจะรู้สึกไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้น จึงมีความคิดอยาก "เอาคืน"บริษัทบ้าง ไปซะทุกเรื่องทำให้ทรัพย์สินหายยังคงมี ตอกบัตรแทนกันก็มีเรื่อยๆ ทำงานด้วยความเฉื่อยชาไม่ยอมทำโอที หรือทำงานในวันหยุดแม้ว่างานจะเร่ง ฯลฯ เป็นต้น ไม่ทราบว่าท่านอื่นๆพบเจออยู่ด้วยหรือเปล่า....- ถ้าจะคิดแบบโอเวอร์ไปเลยเถิด ผมอยากจะให้สมาคม ชมรม หรือผู้เชี่ยวชาญรวมตัวกันเสนอกฏหมายให้ผู้ประกอบการหรือผู้ที่ถูกแต่งตั้งให้กระทำการแทนก็แล้วแต่ ต้องเข้ารับการอบรมบ่มนิสัยก่อนทุกครั้งที่มีการยื่นขอจดทะเบียนบริษัทหรือสถานประกอบการจะดีมั๊ยครับ ถ้าไม่ผ่านอบรมก็ไม่จดทะเบียนให้เป็นต้น เพราะไม่งั้นมันก็จะเกิดปัญหาเดิมๆ คนที่ดีอยู่แล้วก็ขอให้ดีต่อๆไป แต่คนที่คิดไม่ดี คิดแต่จะเอากำไร บนความหวาดกลัวของลูกจ้างนี่สิ ผมว่ามีเยอะกว่ามาก ไม่งั้นป่านนี้ค่าจ้างขั้นต่ำก็ดี สวัสดิการของประชาชนที่ขายแรงงานก็ดี หรือความมั่นคงในชีวิตในอนาคตของลูกจ้างทั้งหลายของประเทศไทยคงจะดีกว่านี้มาก- ลูกจ้างหลายคนทำงานในแต่ละสถานประกอบการด้วยความรู้สึกไม่มั่นคง อาจด้วยการศึกษา พื้นฐานทางความคิด หรืออื่นๆรู้สึกหวาดกลัวต่ออนาคตของตัวเองที่จะโต้แย้ง หรือ" เรียกร้องหาความสุข" กฏหมายและเจ้าหน้าที่รัฐก็มักจะเอื้อต่อนายจ้างซะมากคือมีช่องว่างให้กระทำอีกอย่างหรือไม่ต้องกระทำอะไรซักอย่าง เหมือนระบบบัญชีที่ทำกันสองบัญชีเป็นต้น โดยที่คนที่ได้ประโยชน์ที่เป็นตัวเงินที่มากกว่ามักจะเป็นนายจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เวลานี้เป็นผู้ประกอบการชาวต่างชาติ ... เราควรหาประโยชน์จากการลงทุนของผู้ประกอบการเหล่านั้นให้มากกว่าภาษีอากรได้มั๊ย สิ่งที่ประชาชนของเราควรได้รับหรือเป็นอยู่ เป็นไป น่าจะมากกว่าเงินค่าจ้างเพียงอย่างเดียว- กระบวนการทั้ง 5 ที่คุณอดิศรยกขึ้นมา เป็นตัวอย่างของข้อบังคับทางกฏหมายที่ควรจะทำกัน หรือให้ผ่านการอบรมบ่มนิสัยที่ว่าทั้ง 5 ประการนี้ก่อน ไม่ใช่ให้จนท.บุคคลไปอบรมนะครับ ตัวผู้ประกอบการนั่นแหละ เพราะถ้าพวกเขามีนิสัยที่ดีแล้ว ก็จะมากำหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ หรือนโยบายที่ชัดเจนเป็นธรรมตั้งแต่ต้น อันนี้ก็เหมือนกับการป้องกันโรคใช่มั๊ยครับ- ก็หวังว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดีๆจากคุณอดิศรอีกเช่นเคยครับ ขอบคุณครับเล็กครับเมื่อ 27 สิงหาคม 2553, 15:15, adisorn klinpikul <adisorn_pers@hotmail.com> เขียนว่า:
สวัสดีครับ คุณเล็ก
เหตุการณ์ที่ลูกจ้างฟ้องนายจ้างก็เป็นปัญหาปลายเหตุตามที่คุณว่ามานั่นล่ะครับ
เพราะองค์กรมีปัญหาพิพาทเกิดขึ้นระหว่างนายจ้างลูกจ้าง จึงเกิดกรณีนี้ขึ้นได้
ก็ต้องถามต่อว่าทำไมถึงได้มีการพิพาทเกิดขึ้นได้ เพื่อที่จะได้ไปรักษาที่ต้นเหตุอันเป็นการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น
นายจ้างบางคนไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ก็มีเยอะครับ คิดว่าฟ้องได้ก็ฟ้องไป แต่ถ้านายจ้างที่ฉลาดเค้าจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในองค์กร
โดยเด็ดขาด
เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลก็คือความเชื่อถือของลูกค้าและภาพลักษณ์ขององค์กร ขอยืมคำจากคุณ prakal
ที่ส่งบทความมาให้สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อเช้านี้เองครับว่า " ถ้าพนักงานไม่มีความสุขแล้วลูกค้าจะมีความสุขได้อย่างไร "
เรื่องความสุขของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญมากครับ เพราะส่งผลถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และศักยภาพในการแข่งขันขององค์กรโดยตรง
เรื่องพวกนี้สามารถวัดเป็นมูลค่าได้ด้วยซ้ำ แต่นายจ้างหลายท่านไม่ได้คำนึงถึง และไม่เคยนำมาประเมินมูลค่าเลย ทำให้ในองค์กรมีต้นทุนแฝง
เป็นมะเร็งที่คอยกัดกร่อนอยู่โดยไม่รู้ตัวครับ
ข้อแนะนำว่าเราควรจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดโรคนี้
1. นายจ้างจะต้องมีความเข้าใจเรื่องของการบริหารบุคคลและมีแนวคิดเรื่องทรัพยากรบุคคลให้ได้เสียก่อนครับ
HR. เองก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำให้นายจ้างเห็นความสำคัญของเรื่องนี้อย่างเต็มความสามารถ แต่ถ้าทำไม่ได้
เรื่องอื่นที่จะทำต่อไปก็จะยากมากครับ
2. หากนายจ้างมีแนวคิดที่ถูกต้องแล้ว เรื่องต่อไปที่ต้องทำคือการวางโครงสร้างการบริหารและการบังคับบัญชา
ให้มีการกระจายอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาทั้งหลายในองค์กรที่นายจ้างมอบหมายให้มีอำนาจ
กระทำการแทนนายจ้าง ก็จะต้องมีตามความจำเป็นให้ครอบคลุมการบริหารจัดการองค์กรครับ
3. หากมีผู้มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างครบถ้วนในองค์กรแล้ว HR. ก็จะต้องมีหน้าที่ในการวาง กฎ ระเบียบต่าง ๆ
โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะต้องใช้เป็นข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามกฎหมายมาตรา 108 และ 110
4. HR. มีหน้าที่ที่จะต้องกำหนดกฎเกณฑ์เรื่องกระบวนการพิจารณาทางวินัยเพื่อใช้บังคับในองค์กรครับ
หลาย ๆองค์กรมักจะมอบหมายให้ HR. มีหน้าที่ลงโทษพนักงาน ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิดและขัดต่อหลักการปกครองที่ดีครับ
HR, ไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการลงโทษใครทั้งสิ้น ยกเว้นลูกน้องของตัวเอง หน้าที่ในการสอบสวน พิจารณาโทษต่าง ๆ ของพนักงานนั้น
จะต้องอยู่ที่ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้าง หรือผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพนักงานที่กระทำผิดเท่านั้น โดย HR. มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษา
หรือไกล่เกลี่ย หรือระงับข้อพิพาทที่อาจจะเกิดขึ้นในองค์กรครับ
5. เมื่อ HR. ได้วางระบบเอาไว้ครบถ้วนแล้ว ก็จะต้องทำการอบรมผู้บังคับบัญชาทั้งหลายเหล่านี้ให้มีความรู้ด้สนทักษะการเป็นผู้บังคับบัญชา
, กระบวนการพิจารณาทางวินัย, กฎหมายแรงงาน, จิตวิทยาการปกครอง รวมทั้งจะต้องสร้างผู้บังคับบัญชาเหล่านี้โดยอาจจะกำหนดเป็นวัฒนธรรม
องค์กรเลยก็ได้ว่า ผู้บังคับบัญชาจะต้องเป็นผู้รักษาวินัยของตนเองและขององค์กรอย่างเคร่งครัด เพราะปัญหาการพิพาทส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น
มักจะพบว่า สาเหตุมาจากตัวผู้บังคับบัญชาเสียเองครับ ที่ละเลยวินัย จนเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีขึ้น และมักจะโทษว่าพนักงานหัวหมอ
พนักงานที่ทัศนคติไม่ดีเหล่านี้ต้องยอมรับว่าทุก องค์กรจะต้องมีเพราะมันเป็นเรื่องธรรมชาติของคน แต่หน้าที่ของ HR. และผู้บังคับบัญชาก็คือ
การที่จะต้องควบคุมพฤติกรรมที่ไม่ดีให้อยู่ในกรอบอย่างเที่ยงธรรมโดยให้กระบวนการพิจารณาทางวินัยเชิงสร้างสรรค์ให้ได้ครับ
กระบวนการทั้ง 5 ข้อนี้ ถ้าเราสร้างขึ้นมาได้แล้ว ปัญหาการฟ้องร้องก็แทบจะไม่มีแล้วครับ เพราะข้อพิพาทต่าง ๆ จะถูกไกล่เกลี่ยภายในองค์กรก่อนแล้ว
โดย HR. จะมีหน้าที่เป็นทั้ง พนักงานตรวจแรงงาน ทนายความ แม้กระทั่งเป็นศาล เพื่อระงับปัญหา ข้อพิพาท ทั้งนี้ในองค์กรควรจะต้องมีคณะกรรมการสวัสดิการและแรงงานสัมพันธ์ในสถานประกอบกิจการที่ทำหน้าที่จริง ๆ ตามกฎหมายอยู่ด้วยก็จะช่วยได้เยอะครับ
แต่หลาย ๆ องค์กรมักจะมีเป็นแค่แผ่นกระดาษเท่านั้น ในความเป็นจริงไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลย การสร้างระบบสวสัดิการและแรงงานสัมพันธ์
จะช่วยให้องค์กรมีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงขึ้นได้ครับ เพราะคนในองค์กรจะมีความสุข รู้สึกรักและหวงแหนองค์กร แม้กระทั่งจะลาออกก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะเกรงใจ รักเพื่อน รักเจ้านาย มีปัญหาอะไรเค้าก็จะมาปรึกษาก่อนเสมอ ความรับผิดชอบและวินัยในองค์กรก็จะสร้างได้ไม่ยากครับ
หลาย ๆ องค์กรที่ทำเรื่องนี้ได้ดี จะมีพนักงานที่บอกได้เลยว่าเค้าตายแทนเจ้านายได้นะครับ ผมสัมผัสมาหลายแห่งหลายคนแล้ว ไม่ได้พูดเล่นสนุกปากนะครับ
แต่หากทุกอย่างทำได้ดีแล้ว ก็อาจมีปัญหาฟ้องร้องเกิดขึ้นได้ นายจ้างก็ไม่ต้องกังวลครับ ถ้ากระบวนการทุกอย่างเราทำถูกต้อง
มีความโปร่งใส เป็นธรรม มีมนุษยธรรมแล้ว นายจ้างก็ไม่แพ้คดีหรอกครับ แต่ที่สำคัญคือจะต้องพูดคุยและปรับเปลี่ยนทัศนคติของพนักงาน
ที่เค้าอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องยากแล้วครับ
ต้องการเอกสารหรือ ความรู้เพิ่มเติมประเด็นใดก็สอบถามมาได้นะครับ
อดิศร
Date: Fri, 27 Aug 2010 13:13:57 +0700
Subject: Re: อ้างถึง: [SIAMHRM.COM :28747] ปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานค่ะ
From: lekhots@gmail.com
To: adisorn_pers@hotmail.com
CC: siamhrm@googlegroups.com
- ได้อ่านเมล์ของคุณอดิศรครั้งใดมีความรู้เพิ่มขึ้นทุกที ผมจะทำสำเนาเป็น word เก็บไว้เกือบทุกครั้ง ต้องขอขอบพระคุณมากๆเลยที่เสียสละเวลาเป็นวิทยาทานให้กับคนที่รู้น้อย อย่างผมเป็นต้น- ผมเองก็มีปัญหาที่ต้องคอยแก้ไขเรื่องพวกนี้อยู่เรื่อยๆ ซี่งเมื่ออ่านความรู้ที่คุณอดิศรกรุณาให้มานี้ก็รู้สึกว่า ปัญหาเหล่านี้มันเป็นปลายเหตุใช่มั๊ยครับการที่ลูกจ้างต้องไปฟ้องร้องเนี่ย มันเป็นเหมือนเพียงอาการของโรคใช่มั๊ยครับ- จึงอยากขอคำแนะนำเพิ่มเติมอีกครับว่า เพื่อไม่ให้เกิดโรคที่ว่าเนี่ยมันต้องเริ่มต้นยังไง และถึงแม้จะเกิดโรค ก็จะมีวิธีการรักษาหรือแก้ไขได้ เช่นที่คุณอดิศรบอกว่า ต้องมีการสอบสวนที่เป็นธรรม , ต้องมีการสอน-การประเมินผลที่เป็นรูปธรรม ฯลฯ ทีนี้ระบบ ,ขั้นตอน , วิธีการ หรือเอกสารที่ต้องทำ ต้องใช้ในแต่ละขั้นตอนต้องเป็นยังไง ใครต้องเกี่ยวข้องบ้าง จนกระทั่งมันเป็นเรื่องต้องไปถึงศาล มันจะต้องมีขั้นมีตอน มีเอกสารอะไรบ้างครับ (เช่น ถูกฟ้องร้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเพราะเหตุขาดงาน)- ผมอาจจะถามด้วยคำถามที่อาจจะสับสน ก็ด้วยความรู้น้อย ยังไงก็ยังหวังจะได้รับคำแนะนำอยู่นะครับขอบพระคุณครับเล็กครับเมื่อ 27 สิงหาคม 2553, 10:11, adisorn klinpikul <adisorn_pers@hotmail.com> เขียนว่า:
สวัสดีครับ อดิศร ครับ
กรณีนี้เป็นการใช้สิทธิของลูกจ้างในมาตรา 49 พรบ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน เรื่องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมครับ
ซึ่งลูกจ้างมีสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากนายจ้างได้ อัตราค่าเสียหายไม่มีกำหนดไว้ในกฎหมายครับ
ขึ้นอยู่กับว่าลูกจ้างจะคิดว่าตนเองเสียหายอะไรบ้าง และเรียกร้องเอาจากนายจ้างตามเหตุผลที่ลูกจ้างจะอ้างต่อศาล
และเมื่อศาลรับฟ้องและวินิจฉัยว่านายจ้างเลิกจ้างไม่เป็นธรรมจริง ค่าเสียหายในส่วนนี้ก็จะมีการเจรจาต่อรองและศาลจะไกล่เกลี่ยให้จนสามารถตกลงหรือยินยอมกันได้ทั้งสองฝ่ายครับ
ทีนี้มาดูกันนะครับว่าอะไรบ้างที่เป็นเหตุผลเข้าข่ายว่านายจ้างเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ผมพอจะรวบรวมได้จากประสบการณ์ดังนี้ครับ
หลาย ๆ คดีเกิดขึ้นและเข้าข่ายเลิกจ้างไม่เป็นธรรมหรือนายจ้างเอาเปรียบลูกจ้างเกินสมควรนั้น เนื่องจากนายจ้างไม่มีระบบการประเมินผลทดลองงานที่โปร่งใสและเป็นธรรมต่อลูกจ้าง เช่น นายจ้างไม่มีแบบประเมินผลทดลองงานเลย เมื่อลูกจ้างเข้ามาทำงานให้แล้ว นายจ้างก็ปล่อยให้ลูกจ้างทำงานไปโดยอาจจะไม่มีคนคอยชี้แนะหรือสอนงานด้วยซ้ำ พอนายจ้างเห็นว่าลูกจ้างทำงานไม่ได้ตามที่คาดหวัง หรือเมื่อครบกำหนดทดลองงานแล้วโดยนายจ้างอาจจะเข้าใจว่าการทดลองงานเป็นสัญญาจ้างที่กำหนดระยะเวลา ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ก็เลยบอกเลิกจ้างลูกจ้างทันที สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรา 17 นายจ้างก็ไม่จ่าย อย่างนี้หากลูกจ้างเห็นว่าไม่เป็นธรรมก็สามารถฟ้องตามมาตรา 49 วิ. ได้ครับ ศาลก็จะมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้าง หรือถึงแม้ว่านายจ้างจะจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่หากลูกจ้างพิสูจน์ได้ว่าฝ่ายนายจ้างมีการกลั่นแกล้ง หรือนายจ้างไม่มีหลักฐานที่แสดงว่ามีการพิจารณาทดลองงานอย่างเป็นธรรมลูกจ้างก็เรียกร้องค่าเสียหายได้ครับ
- กรณีนายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างที่อายุงานไม่ถึง 120 วัน หรือกรณีที่นายจ้างมีเหตุผลว่าลูกจ้างไม่ผ่านทดลองงาน
2.1 นายจ้างเลิกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ได้มีความผิดทางวินัยตามมาตรา 119 ซึ่งนายจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา 118 และหากไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้าด้วยก็ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรา 17 ถ้านายจ้างไม่จ่าย ลูกจ้างก็ฟ้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยหรือสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าได้ หรือลูกจ้างก็อาจเรียกร้องค่าเสียหายตามมาตรา 49 วิ ได้อีก หากเห็นว่าการกระทำของนายจ้างเป็นการเอาเปรียบเกินสมควรหรือลูกจ้างถูกกลั่นแกล้ง หรือเหตุผลที่นายจ้างเลิกจ้างในกรณีนี้เป็นเพราะระเบียบของนายจ้างบางอย่างขัดต่อกฎหมาย ถึงแม้นายจ้างจะจ่ายค่าชดเชยแล้วก็ตาม
- กรณีที่ลูกจ้างทำงานเกิน 120 วันแล้ว เหตุผลในการเลิกจ้างก็จะมีอยู่ 2 ประการคือ
2.2 นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างเนื่องจากลูกจ้างมีความผิดทางวินัยตามมาตรา 119 ซึ่งนายจ้างไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าชดเชย แต่ฝ่ายนายจ้างไม่มีการพิจารณาสอบสวนอย่างเป็นธรรม หรือกฎระเบียบของนายจ้างขัดต่อกฎหมาย หรือเอกสารหนังสือเตือนก็ดี หนังสือเลิกจ้างก็ดีของฝ่ายนายจ้างเป็นโมฆะ อย่างนี้ลูกจ้างฟ้องเรียกค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าเสียหายจากการเลิกจ้างได้ครับ
นอกจากนี้แล้ว ก็จะยังมีค่าตอบแทนอื่น ๆ ( ถ้ามี ) ที่นายจ้างจะต้องจ่ายให้ลูกจ้างกรณีเลิกจ้างด้วย เช่นเงินประกันตามมาตรา 10 , ค่าจ้างค้างจ่าย ,ค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปี หรือค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสม ตามมาตรา 67 หรือเงินอื่น ๆ อันเป็นสิทธิของลูกจ้างโดยชอบด้วยกฎหมาย หากนายจ้างจ่ายให้ไม่ครบ ลูกจ้างก็เรียกร้องได้ครับ
เท่าที่คุณได้ยกตัวอย่างมา เรื่องของระเบียบการลา ถ้านายจ้างกำหนดไว้อย่างนี้ลูกจ้างฟ้องเลิกจ้างไม่เป็นธรรมได้แน่นอนครับ เพราะเป็นระเบียบที่ขัดต่อกฎหมาย ใช้บังคับลูกจ้างไม่ได้ครับ
ถึงแม้จะจ่ายค่าชดเชยก็ตาม ลูกจ้างก็ยังมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ครับ
หากนายจ้างจะพิจารณาการลางานของลูกจ้างว่ามีความผิดทางวินัยนั้น นายจ้างจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อพิสูจน์ได้ว่า การลาของลูกจ้างเป็นเท็จ หรือลูกจ้างได้ทำผิดระเบียบในการลางานที่นายจ้างได้กำหนดไว้โดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นครับ
เหตุผลเพราะการลางานของลูกจ้างนั้น มีกฎหมายกำหนดไว้แล้ว ว่าลูกจ้างมีสิทธิอย่างไรบ้าง
เช่นสิทธิในการลาป่วยตามมาตรา 32 หรือสิทธิในการลากิจตามมาตรา 34
ถึงแม้ในมาตรา 34 นายจ้างจะมีสิทธิกำหนดข้อบังคับในการลากิจได้ แต่ข้อบังคับนั้นก็จะต้องไม่เป็นการเอาเปรียบลูกจ้างเกินสมควรด้วยเช่นกันครับ
แนะนำว่าหากไม่ต้องการให้เกิดปัญหาพนักงานฟ้องร้อง ฝ่ายบุคคลจะต้องเอาข้อบังคับการทำงานที่มีอยู่รวมทั้งวิธีในการปฏิบัติด้านกระบวนการพิจารณาทางวินัย ตลอดจนแบบฟอร์มต่าง ๆ มาทบทวนดูใหม่ครับ ว่ามีอะไรขัดต่อกฎหมายหรือไม่ เพราะถ้ามี ข้อบังคับจะเป็นโมฆะ ใช้บังคับไม่ได้ ถึงแม้ลูกจ้างจะยินยอมก็ตาม และหากลูกจ้างไปฟ้อง นายจ้างก็จะแพ้คดีครับ
ส่งข้อบังคับหรือระเบียบต่าง ๆ มาให้ผมช่วยดูให้ก็ได้นะครับ จะแนะนำให้
และไม่ทราบว่าเคยได้รับเอกสาร คำถาม คำตอบ ที่ผมรวบรวมไว้หรือยัง ถ้ายังก็ขอมาได้ครับ
จะ mail ส่งมาให้นะครับ
อดิศร
From: malisa.yon@sammitrauto.com
To: Angkarn@kslgroup.com; siamhrm@googlegroups.com
Subject: FW: อ้างถึง: [SIAMHRM.COM :28713] ปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานค่ะ
Date: Thu, 26 Aug 2010 13:26:43 +0700
ยกตัวอย่างเช่น บริษัทฯ มีระเบียบการลาให้พนักงานเช่น
ลาได้ไม่เกิน 5% ของ MAN HOUR ในแต่ละเดือน หากเกิน ติดต่อกัน 2 เดือน จะถูกใบเตือนครั้งที่ 1 ด้วยวาจา
ติดต่อกันอีก ก็ถูกครั้งที่ 2 ,ครั้งที่ 3 ...ซึ่งพนักงานลงนามเซ็นต์รับทราบทุกครั้ง จนถึงเลิกจ้างโดยจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน
เป็นต้นค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
มาลิสา พรสุดาชัย(นุ่น)
เจ้าหน้าที่บุคคล
บริษัท สามมิตรโอโตพาร์ท จำกัด
02-4209696
From: Angkarn Chaiyachart [mailto:Angkarn@kslgroup.com]
Sent: Thursday, August 26, 2010 1:10 PM
To: malisa.yon@sammitrauto.com
Subject: อ้างถึง: [SIAMHRM.COM :28697] ปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานค่ะ
กรณีที่เลิกจ้างนี้ มีเหตุผลในการเลิกจ้างอย่างไร หรือทำผิดระเบียบบริษัทฯอะไรบ้างครับ
จาก: siamhrm@googlegroups.com [mailto:siamhrm@googlegroups.com] ในนามของ malisa.yon@sammitrauto.com
ส่ง: Thursday, August 26, 2010 11:24 AM
ถึง: siamhrm@googlegroups.com
เรื่อง: [SIAMHRM.COM :28697] ปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานค่ะ
ปรึกษาผู้รู้ค่ะ
บริษัทฯ มีคดีความที่ต้องขึ้นศาลแรงงานหลายคดีค่ะ(เช่น สถิติการหยุดงานมากสะสมฯลฯ)
โดยบริษัทฯ ก็ได้ทำการเลิกจ้างพนักงานโดยจ่ายเงินชดเชยตามอายุงาน
และค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 งวดการจ่ายค่าจ้าง+วันพักร้อนคงเหลือให้พนักงานแล้ว
ซึ่งพนักงานส่งฟ้องบริษัทฯ โดยขอค่าเสียหายกรณีถูกเลิกจ้าง เป็นเงินหลายแสนบาท
บางรายเป็นล้านบาท ซึ่งตำแหน่งงานก็เป็นพนักงานธรรมดา แต่ศาลก็รับฟ้อง
ปัจจุบันก็ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดีอยู่ เลยอยากจะถามผู้รู้ว่า ค่าเสียหายกรณีถูกเลิกจ้าง
ที่พนักงานอ้างว่า ทำให้เขาต้องลำบากเช่น ต้องส่งรถ ส่งลูก ส่งบ้าน ฯลฯ ศาลจะพิจารณาจากอะไร
และมีอัตราการจ่ายกำหนดไว้หรือไม่
ตัวดิฉันเองก็เป็นลูกจ้างคนหนึ่ง ถึงจะเป็นฝ่ายบุคคล แต่ก็มิได้เข้าข้างนายจ้างจนเกินไป
แต่ในกรณีนี้ หากนายจ้างต้องจ่ายเพิ่มเติมจากเงินชดเชยตามอายุงานแล้ว ต้องมาจ่ายค่าเสียหาย
อีก แล้วนายจ้างจะเลิกจ้างพนักงานที่เกเร ด้วยวิธีอะไร บางครั้งการลงโทษตามขั้นตอน หรือการนับ
อายุใบเตือนว่าไม่เกิน 1 ปี ก็เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งในการจัดการกับพนักงานที่เกเรหรือหัวหมออยู่
เหมือนกัน รบกวนผู้ที่เคยมีประสบการณ์เรื่องดังกล่าว แชร์ข้อมูลด้วยค่ะ
ขอแสดงความนับถือ
มาลิสา พรสุดาชัย(นุ่น)
เจ้าหน้าที่บุคคล
บริษัท สามมิตรโอโตพาร์ท จำกัด
02-4209696
--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
__________ Information from ESET NOD32 Antivirus, version of virus signature database 5397 (20100825) __________
The message was checked by ESET NOD32 Antivirus.
http://www.eset.com
__________ Information from ESET NOD32 Antivirus, version of virus signature database 5397 (20100825) __________
The message was checked by ESET NOD32 Antivirus.
http://www.eset.com
--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
แนะนำ :
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น