วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

[SIAMHRM.COM :20413] SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น,ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

xBR> SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้น,ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา
 
        กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--รอยเตอร์
 
 
 
        *ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจหนุนความเชื่อมั่นในการฟื้นตัว
 
         ทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากบริษัทซิสโก ซิสเทมส์ บ่งชี้ถึงการ
 
         ดีดตัวของการใช้จ่าย ด้านเทคโนโลยี 
 
        *ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนธ.ค. ปิดเมื่อวานนี้ ลดลง 78 
 
         เซนต์ หรือ 0.97% มาที่ 79.62 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความวิตกต่ออุปสงค์น้ำมัน
 
         ที่ชะลอตัวลง ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงระมัดระวัง แม้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการ
 
         ว่างงานครั้งแรกลดลงก็ตาม
 
        *รัฐบาลเรียกเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กลับพร้อมทบทวนความสัมพันธ์รวม
 
         ถึงพันธกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา เพื่อแสดงให้รับรู้ถึงความไม่พอใจ
 
         ของไทย ในกรณีที่กัมพูชา แต่งตั้ง"พ.ต.ท.ทักษิณ"เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ และจะไม่
 
         ส่งตัวพ.ต.ท.ทักษิณกลับไทย ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน หากมีการร้องขอ
 
        *ผู้ว่าการธปท. เผยระดับเงินบาทยังแข่งขันทางการค้าได้ โดยธปท.จะดูแลเงินบาท
 
         ให้เคลื่อนไหวเกาะกลุ่มกับสกุลเงินภูมิภาค ไม่ว่าจะไปในทิศทางที่แข็งขึ้นหรืออ่อนค่า 
 
         แต่ก็พร้อมเข้าดูแลทันทีหากผันผวนมากเกินไป จนกระทบภาคส่งออก
 
        *ผู้ว่าการธปท.ระบุจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะใกล้นี้ หรืออย่างน้อย
 
         ภายในสิ้นปีนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยคงไม่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะที่มองว่าเศรษฐกิจ
 
         โลกคงไม่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วภายใน 2 เดือนนี้ ขณะที่ยังไม่มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ 
 
         และมองว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% เหมาะสมและเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ   
 
        *นายกรัฐมนตรี เผย มูลค่าการลงทุนในส่วนของการก่อสร้าง ในช่วง 3 ปี ตามแผน
 
         ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 55 มีสูงถึง 7 แสนลบ. และจะทำให้เกิด การจ้างงานได้
 
         ถึง 1.5 ล้านอัตรา ขณะที่มองอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย มีความพร้อมในการออก
 
         ไปรับงาน ยังต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการเงิน และปรับปรุงกฎหมาย 
 
         เพื่อรองรับการออกไปลงทุน ของอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในต่างประเทศ
 
        *กทช.ระบุมีความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนเปิดประมูลใบอนุญาต 3G ออกไปอย่างน้อย 1 เดือน 
 
         จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนก.พ.53 หลังจะส่งเรื่องให้สำนักงาน
 
         คณะกรรมการกฤษฎีกา ตีความอำนาจของกทช.ในการออกใบอนุญาต 3G   
 
        *หนังสือพิมพ์เผย รัฐบาลกัมพูชาจะเรียกเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กลับ
 
         เพื่อตอบโต้ไทย ขณะที่รมช.พาณิชย์ระบุกรณีการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างไทย
 
         -กัมพูชาจะกระทบต่อการค้าและการลงทุนของไทย ส่วนจะเรียกผู้อำนวยการส่งเสริมการค้า
 
         ในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญกลับไทยหรือไม่ คาดว่ารมว.พาณิชย์จะหารือกับนายกฯวันนี้
 
        *หนังสือพิมพ์เผย รมช.พาณิชย์ระบุมูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา ในปี 51 มีมูลค่า
 
         ประมาณ 7.2 หมื่นลบ.ขยายตัว 51.7% จากปี 50 
 
        *หนังสือพิมพ์เผย บีโอไอมองปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา ไม่น่าจะกระทบต่อการลงทุนของ
 
         นักธุรกิจไทยในกัมพูชา ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองซึ่งต้องแยกออกจากภาคธุรกิจ
 
         ซึ่งนโยบายการลงทุนยังเหมือนเดิม โดยกัมพูชามีกฎหมายส่งเสริมการลงทุนเมื่อวันที่ 5
 
         ส.ค.37 และนับจนถึงมิ.ย.52 มีนักลงทุนตปท.ลงทุนในกัมพูชา 7.7 พันล้านดอลลาร์
 
         ซึ่งไทยเข้าไปลงทุนเป็นอันดับ 7 มูลค่าลงทุน 284 ล้านดอลลาร์
 
        *หนังสือพิมพ์เผย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) ระบุที่ประชุม
 
         คณะกรรมการบริหารเห็นชอบกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ปี 52/53 ที่ 950 บาท/ตัน เป็น
 
         สถิติสูงสุดตั้งแต่มีระบบแบ่งปันผลประโยชน์ โดยจะเสนอ กอน.พิจารณาภายในเดือนพ.ย.
 
        *หนังสือพิมพ์เผย รมช.คลังระบุการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร และศุลกากรใน
 
         ต.ค. จัดเก็บได้เกินเป้าหมาย สะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น
 
        *หนังสือพิมพ์เผย นายกสมาคมผู้เลี้ยงกุ้งทะเลไทย ระบุเป็นข่าวดีที่ขณะนี้สหรัฐอเมริกากับ
 
         อุตสาหกรรมกุ้งไทย ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องการทำการประนีประนอม โดยผ่านวิธีซีซีอาร์ 
 
         ในการที่จะยกเลิกการใช้มาตรการเอดี สินค้ากุ้งกับประเทศไทย
 
        *หนังสือพิมพ์เผย รองประธานส.อ.ท.ระบุตัวแทนจากส.อ.ท.หารือกับรองนายกรัฐมนตรี
 
         เพื่อแก้ปัญหามลพิษมาบตาพุดวานนี้ ได้ข้อยุติว่ารัฐบาลจะสนับสนุนงบประมาณ 4 พันลบ.
 
         เพื่อแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน โดย สศช.จะรวบรวมแผนแก้ปัญหาทั้งหมด
 
        *หนังสือพิมพ์เผย ผู้จัดงานคอมมาร์ตมองเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังมีสภาพที่ดีขึ้น จึงตั้ง
 
         เป้ายอดขายภายในงานเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันลบ.จากเป้าเดิม 3.5 พันลบ.หากเป็นไปตาม
 
         เป้าจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดไอทีในปีนี้โตได้ 6% จากเดิมคาดโต 4%
 
        *หนังสือพิมพ์เผย ตลท.ยืนยันมาร์เก็ตแคปตลาดเพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 56 หรือแตะ 12 ล้าน
 
         ล้านบาท จากการเดินหน้าตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย เพิ่มจำนวนบริษัทเข้าจดทะเบียน
 
         --จบ--
 
 
 
        (โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--บร--)        
 
 
        ReutersMessaging:wirat.buranakanokthanasan.reuters.com@        
 
        reuters.net))
 
 

--~--~---------~--~----~------------~-------~--~----~
       - ร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล  -

แนะนำ :

http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ประกาศรับสมัครงาน สำหรับนักสรรรหา มืออาชีพ พร้อมรับส่วนลด มากมาย ถึง 31 ธันวาคม 2552 นี้ เท่านั้น
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
-  หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
-  หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
-  หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
-~----------~----~----~----~------~----~------~--~---

ไม่มีความคิดเห็น: