วันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2551

นิตยสารธรรมะใกล้ตัวฉบับที่ ๕๓ ประจำวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๑

cid:image001.jpg@01C92F89.1EBC4610

 

จากใจ บ.ก. ใกล้ตัว

w-editorกลางชล

 


สวัสดีค่ะ

 

ถ้าประเทศไทยวันนี้ เป็นบุคคลที่มีตัวตนเป็นคนจริง ๆ

เห็นอาการวันนี้ ก็ต้องเรียกว่าสาหัสและบานปลาย ด้วยโรครุมเร้ามากมายจริง ๆ นะคะ

อะไรจะรับวิบากพรวด ๆ ในคราวเดียวกันได้น่าเป็นห่วงขนาดนี้...

 

"วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์" ทำเอาบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทในอเมริกา

พากันล้มละลายเป็นโดมิโน และเป็นโดมิโนที่เรายังเห็นล้มทับกันไม่สุดปลายแถวเสียด้วย

โรคร้ายนี้พลอยลุกลามมาถึงบ้านเรา ใครเป็นคนทำมาค้าขาย ก็จะเห็นต้นทุนเริ่มสูง

ยอดขายเริ่มตก ต่างประเทศลดการสั่งซื้อ ผลผลิตราคาตกต่ำ ค่าครองชีพสูง ฯลฯ

ตลาดทองคำผันผวนขึ้นลงมากมายในหนึ่งวันอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ตลาดหุ้นรูดกราว มูลค่าหดฮวบ หน้ากระดานแดงเถือกเป็นประวัติการณ์

จนถึงกับต้องสั่งหยุดการซื้อขายชั่วคราว ๓๐ นาทีกันไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา

 

ไม่พอ... เรายังผีซ้ำด้ำพลอยด้วย "วิกฤติการเมือง" ที่ทำเอาคนทั้งประเทศแตกแยก

พยาบาทชิงชัง แตกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย รุนแรงบานปลายจนถึงเลือดเนื้อและชีวิต

นักลงทุน พลอยเกิดความเชื่อมั่นสั่นคลอน นักท่องเที่ยว รักตัวกลัวตาย แห่กันยกเลิกที่พัก

กระเป๋าตังค์ที่รั่วอยู่แล้ว จึงท่าจะแห้งกว่าเดิมเพราะไม่มีเงินเข้าจากฤดูท่องเที่ยวเหมือนเคย

แถมยิ่งเศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนก็ยิ่งเดือดร้อน ขโมยขโจรก็พลอยชุกชุมขึ้นไปอีก

และล่าสุด ก็มีเหตุให้กระทบกระทั่งกับเพื่อนบ้านเรื่องดินแดนกันเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

 

ลองหันไปฟังผลสำรวจของมหาวิทยาลัยเอแบค ที่เขาสำรวจกันมา

เมื่อช่วงเดือนกันยายน ตุลาคม ๒๕๕๑ นี้ดูบ้าง ก็เห็นเขาบอกว่า

"คะแนนความสุขมวลรวม" ของคนไทย จากคะแนนเต็ม ๑๐ อยู่ที่ ๑.๙๘ เท่านั้นเองค่ะ

 

คุณผู้อ่านล่ะคะ... ช่วงที่ผ่านมาความสุขโดนกระทบกันไปมากน้อยแค่ไหน

ถ้าจะให้คะแนนความสุขกับชีวิตตัวเอง เต็ม ๑๐ คิดว่าอยู่ที่เท่าไหร่กันคะ?

 

หลายเรื่องในโลก ต่อให้เราเก่งกล้าแค่ไหน ก็เกินกว่ากำลังที่เราจะเข้าไปแก้ไขได้สิ้น

ถ้าความสุขของเรา แขวนไว้แต่กับโลกภายนอกจนเต็มเหนี่ยว

อยากจะให้มันสุข อยากจะให้มันดี อยู่อย่างนั้นเพียงถ่ายเดียว

ไม่นาน เราก็คงไม่เหลือความสุขให้เก็บเกี่ยวในหัวใจอีกเลย

 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสถึงความจริงอย่างหนึ่งไว้ตั้งสองพันกว่าปีมาแล้ว

และสิ่งนั้นก็ยังเป็นความจริงอยู่จนถึงวันนี้นะคะว่า

ที่จริงแล้ว โลกนี้มีธรรมชาติที่ตรงข้ามกันอยู่ ๘ อย่าง ๔ คู่

เป็นของมีประจำโลกที่หนีไม่พ้น ท่านเรียก โลกธรรม ๘ คือ

 

ได้ลาภ เสื่อมลาภ

ได้ยศ เสื่อมยศ

มีสรรเสริญ มีนินทา

มีสุข มีทุกข์

 

ใครได้ลาภ ได้ยศ ได้สรรเสริญ ได้ความสุข ก็มีแต่ ความยินดี

หลงครอบครองด้วยความเผลอเพลิน หลงคิดว่าความน่ายินดีจะคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป

 

ใครเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา เป็นทุกข์ ก็มีแต่ ความยินร้าย

ทนอยู่กับสภาพนั้นด้วยความไม่พอใจ ดิ้นรนแต่จะทำยังไงให้ผลักไสมันออกไปเร็ว ๆ

 

อยู่กับโลก อย่างไรก็ต้องถูกแกว่งไปแกว่งมากับของคู่กันสองด้านนี้ อย่างหนีไม่พ้น

 

เราจึงไม่เคยได้อะไรมาครอบครองจริง

และไม่เคยสูญเสียอะไรไปจริง...

 

ก็เมื่อสิ่งใดมีแต่ธรรมชาติแห่งความปรวนแปร

เราจะหวังยึดเหนี่ยวให้สิ่งนั้นเป็นเครื่องพึ่งพิงที่แท้ได้หรือ

 

เพียงแค่มองเห็นทุกสิ่งตามที่เป็น และยอมรับความจริงนี้ได้

ใจเราก็เบาคลายลงไปจากสิ่งที่ยึดเหนี่ยวเกาะกุม คลายจากความคาดหวังอันหนักแน่น

อันเป็นเหตุของความทุกข์ไปได้ไม่น้อยแล้วนะคะ

 

แท้จริงแล้ว ลำพัง ลาภ ยศ อำนาจ ทรัพย์สิน ชื่อเสียง ฯลฯ

โดยตัวมันเอง ไม่ได้มีฤทธิ์ครอบงำผู้คนอะไรนัก

แต่ตัวการที่ทำให้เราถูกเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาจนบอบช้ำ เมื่อได้มาเสียไปนั้น

เป็นเพราะความ "หลง" เข้าไปยึดมั่นว่า มันเป็น "ตัวเรา ของเรา" ต่างหาก

 

การน้อมคิดพิจารณาทุกสิ่งว่าไม่เที่ยงแท้ แปรปรวน ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา

ก็นับเป็นอุบายที่ช่วยให้กิเลสในใจเราเบาบางลงไปได้จริงอยู่เหมือนกันนะคะ

 

เพียงแต่... มันอาจช่วยเราได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว

หากต้องการทางออกที่ยั่งยืนกว่านั้น ชนิดขุดรากถอนโคน

ไม่ต้องทุกข์เพราะการได้มาเสียไปของสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว โดยไม่กลับกำเริบอีก

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า มีอยู่เพียงทางเดียวเท่านั้นค่ะ คือ

การลงมือเจริญสติ รู้กาย รู้ใจ

จน "เห็น" ความไม่มีแก่นสารสาระของสิ่งเหล่านั้นอย่างแท้จริง

ผ่าน "ใจ" ไม่ใช่ผ่านสมอง ไม่ใช่ผ่านความคิด

 

ค่อย ๆ เริ่มต้นฝึกไปเถิดค่ะ คุณดังตฤณยังเคยพูดคุยให้ฟังครั้งหนึ่งนะคะว่า

 

ฝึกไป ๆ วันหนึ่ง เราจะรู้เอง

ว่าสิ่งที่มีความหมายที่สุดกับเรา คือ 'ความรู้ทันปฏิกิริยาทางใจ'

ถ้ารู้ทัน ก็ไม่หลงเตลิด ถ้าไม่รู้ ก็วิ่งพล่านไปอย่างไร้จุดหมาย

 

เราหลงเหนื่อย หลงพล่าน กับเหยื่อล่อกันมานานแสนนานแล้วนะคะ

และถ้ายังไม่ก้าวขาออกมา เราก็จะยังต้องเหนื่อยวิ่งพล่านอย่างนี้ต่อไปอีกไม่รู้จบสิ้น

 

วิกฤติการเมืองยังไม่รู้จะจบเมื่อไหร่ วิกฤติเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย อยู่กับเรายาวแน่

ปีหน้า เราอาจต้องเผชิญกับมรสุมที่รุมเร้ากันหนักและรุนแรงยิ่งกว่านี้

 

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ท่านจึงเอ่ยเตือนอยู่เสมอ ๆ นะคะว่า

 

อย่าคิดว่าเวลายังเหลืออีกเยอะ ให้พากันเร่งภาวนา

 

นาฬิกาชีวิตเราอาจจะหมดลานลงที่ตรงไหน อย่างไร เมื่อไหร่ก็ได้

เราต้องเตรียมตัวกันเสียตั้งแต่วันนี้แล้วนะคะ

 

ถึงวันที่โลกไม่ใจดีกับเราอีกต่อไป ถึงวันที่กรรมวิบากจ่อรอให้ผล

ถึงวันที่วิกฤติต่าง ๆ พากันมารุมเร้า เหวี่ยงเราจากสุข จนทุกข์ไปอีกด้านหนึ่งสุดโต่ง

 

ถึงวันนั้น จะไปเรียกหาตำรา วิ่งหาครูบาอาจารย์

ก็อาจพบว่าสายเกินกว่าที่จะดึงตัวเองออกมาจากทะเลทุกข์กันได้ทันแล้วนะคะ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

เรื่องน่าสนใจประจำฉบับ

 

คอลัมน์ "ธรรมะกับไลฟ์สไตล์" กลับมาอีกครั้งแล้วค่ะ หลังจากห่างหายคุณผู้อ่านไปนาน

ฉบับนี้ คุณตันหยง กลับมาพร้อมกับบุคคลที่น่าสนใจพร้อมกัน ๒ คนเลยค่ะ กับตอนที่ชื่อว่า

ธรรมะของสาวทันสมัย "วีเจเหมียว" และหนุ่มยุคไฮเทค "คุณโจโจ้"

สองพี่น้องต่างสายเลือด ที่มากความสามารถ และโดดเด่นโลดแล่นในทางโลก

แต่เติบโตเกื้อกูลกันมา เพื่อต่างขัดเกลาตนบนเส้นทางธรรมในขณะเดียวกัน

คุณอาจได้รู้จัก "วีเจเหมียว" ในมุมที่คุณไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน

คุณอาจได้ข้อคิดอะไรอีกหลายอย่างจาก "คุณโจโจ้" หนุ่มธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา

ฟังสองพี่น้องพูดคุยแล้ว เชื่อว่าคุณผู้อ่านจะได้อะไรกลับไปไม่น้อยเลยค่ะ อย่าพลาดนะคะ

 

เศรษฐกิจยุคฝืดเคืองอย่างนี้ มีใครหวังจะหันมารวยด้วยหวยด้วยโชค

เหมือน คุณกลางวัน บ้างไหมคะ : ) คอลัมน์ "เรื่องสั้นอิงธรรมะ" ฉบับนี้

เธอจะมาเล่าประสบการณ์เสี่ยงดวงของเธอให้ฟัง กับเรื่องราวมัน ๆ เรื่อง ในวันหวยออก

สุดท้ายจะถูกหวยหรือไม่ยังไม่เฉลย แต่สังเกตได้เลยว่า นี่ถ้าไม่ใช่คนหัดภาวนา

จะเล่าเรื่องวันหวยออกแบบได้อารมณ์แนวดูจิตดูใจแบบนี้ไม่ได้เลยนะคะเนี่ย ; )

 

ส่วนคอลัมน์ "ของฝากจากหมอ" ฉบับนี้ คุณหมอพิมพการัง

จะพาเราไปติดตามเคสการรักษาของน้องแตงโม สาวน้อยกินยายากวัยสองขวบครึ่ง

ที่เห็นแล้วพลอยนึกไปถึงเพลงที่ร้องว่า แตงโมผลใหญ่ ๆ เกิดขึ้นได้จากเมล็ดแตงเล็ก ๆ

คนเราก็มีเมล็ดเล็ก ๆ นั้นไม่ต่างกัน มันคืออะไร และรู้แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป

ลองพลิกไปฟังมุมมองของเธอดูค่ะ

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

ข่าวสารและกิจกรรมที่น่าสนใจ

 

ใครที่ไม่มีโอกาสได้ไปฟัง หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช ท่านไปเทศน์

ที่ สถาบันวิมุตตยาลัย เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๑ เรื่อง "ความหลง"

ตอนนี้ ไฟล์เสียงเทศน์มีพร้อมให้ทุกท่านดาวน์โหลดไปฟังกันได้แล้วนะคะ

คลิกเข้าไปฟังได้ที่ http://www.wimutti.net/pramote/ ค่ะ

 

หมอพีร์ เจ้าของคอลัมน์ยอดฮิต "ไดอารี่หมอดู"

ตอนนี้ คลอดรายการวิทยุฉบับยังไม่ออนแอร์ : ) ตอนที่ ๒ มาให้ได้ฟังกันแล้วนะคะ

คลิกไปฟังเสียงใส ๆ จากหมอพีร์ ดนตรีสบาย ๆ กับพิธีกรชายที่มาร่วมสร้างสีสัน

ได้ในรายการ "คุ้ยแคะแกะกรรม" ตาม Link นี้กันไปเลยค่ะ

http://www.goodfamilychannel.com > Search ด้วยคำว่า "หมอพีร์"

ตอนนี้ยังเป็นรายการทดลองออกอากาศ (เงียบ ๆ) อยู่นะคะ

ใครฟังแล้ว ชอบ ไม่ชอบ อย่างไร ก็โพสต์ความคิดเห็นฝากไว้ได้เลยค่ะ : )

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

 

ร่วมสนุกท้ายฉบับ

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีหนังสือออกใหม่เล่มหนึ่ง จากปลายปากกาของนักเขียนนาม 'ภนิตา'

เธออาจจะเป็นนักเขียนสมัครเล่นในงานหนังสือ แต่เธอคือนักภาวนาในชีวิตจริงค่ะ

 

ปกหน้า[1]

 

"บันทึก... จากรักสลาย กลับกลายเป็นดูจิต"

เป็นหนังสือเล่มบาง ที่เล่าเรื่องจริง และประสบการณ์ตรงของเธอเอง

 

ใครเคยมีคนรักที่คบหากันมายาวนาน มองเห็นแต่วันชื่นคืนสุขอยู่ข้างหน้า

แล้ววันหนึ่งพังครืนทลายลงมาอย่างไม่คาดฝัน

คงจำความรู้สึกเหล่านั้นได้นะคะ ยิ่งยึด ยิ่งผูกพัน ยิ่งเจ็บปวด เนิ่นนาน...

 

คุณภนิตา เธอโชคดีหน่อยก็ตรงที่

เธอมีโอกาสได้รู้จักกับคำสอนของพระพุทธเจ้า

ที่ท่านตรัสไว้ว่า หนทางที่จะพาให้พ้นจากความโศกเศร้าพิไรรำพันได้อย่างถาวร

มีทางเดินอยู่เพียงเส้นเดียวเท่านั้น นั่นคือ การเจริญสติ รู้กาย รู้ใจ

และเมื่อรู้แล้ว เธอก็ตัดสินใจดึงตัวเองลุกขึ้นเดินตามเส้นทางนั้นทันที

 

สำหรับเธอวันนี้ ทุกข์ มีไว้ให้ "รู้" ไม่ได้มีไว้ให้ "เป็น"

และประสบการณ์ของเธอ ก็อยู่ในบันทึกเล็ก ๆ เล่มนี้แล้วค่ะ

ใครสนใจ ก็สามารถไปขอรับได้ฟรี ที่บ้านอารีย์ (www.baanaree.net) นะคะ

 

แต่คุณภนิตาก็ใจดี ได้มอบหนังสือมาแจก

ให้กับคุณผู้อ่านนิตยสารของเราด้วย จำนวน ๒๐ เล่ม ค่ะ : )

 

เพียงคุณผู้อ่านร่วมแสดงความคิดเห็น หรือแบ่งปันประสบการณ์กันเข้ามาว่า

 

หากคุณเคยผ่านประสบการณ์ผิดหวัง อกหัก รักสลาย

คุณทำอย่างไรจึงผ่านมันมาได้

และถึงตอนนี้... ถ้ามีคนมาขอคำแนะนำจากคุณ คุณจะบอกเขาว่าอย่างไร?

 

ส่งคำตอบเข้ามาได้ที่กระทู้สนทนาตาม Link นี้

http://dharmaathand.com/forum/viewtopic.php?f=3&t=3416
ใครยังไม่อยากตอบ ก็แวะเข้าไปอ่านประสบการณ์ของเพื่อน ๆ ได้นะคะ : )

 

ส่งคำตอบมาภายใน วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๑ นี้นะคะ

ประกาศผู้โชคดีฉบับหน้า แล้วเราจะจัดหนังสือส่งให้ถึงบ้านเลยค่ะ

 

แล้วพบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ สวัสดีค่ะ : )

 

 

อ่านนิตยสารในหลายรูปแบบ

 

อีเมล์ฉบับนี้ได้แนบ นิตยสารในรูปแบบ .doc มาแล้ว

 

อ่านทุกฉบับผ่าน website

http://dungtrin.com/mag 

 

อ่านด้วยโปรแกรม Word

http://dungtrin.com/mag/word/53.doc 

 

เสียงอ่านหนังสือธรรมะใกล้ตัว wma mp3

http://dungtrin.com/mag/sound.php?53 

 

รูปแบบ PDF คุณภาพสูง และ PDF Booklet พร้อมพิมพ์ เป็นหนังสือ

http://dungtrin.com/mag/?53.pdf 

 

สมัครสมาชิกนิตยสาร รับอีเมล์ทุกวันพฤหัสบดี สัปดาห์เว้นสัปดาห์

http://dungtrin.com/mail

 

ไม่มีความคิดเห็น: