วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556

ธรรมะใกล้ตัวฉบับ Lite ฉบับวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๖

cover96big

จากใจ บก ใก้ตัว

dungtrin_avatarฉบับที่ ๙๖ ทำอย่างไรจะเลิกผูกใจเจ็บได้?



สังเกต ความสุขจากการเปลี่ยนใจไม่คิดเอาเรื่อง ว่าเย็นเหมือนคนหายป่วย สังเกตความทุกข์จากการปักใจคิดเอาเรื่อง ว่าร้อนเหมือนคนกำลังเป็นไข้ ในที่สุดใจจะฉลาดเลือกความเย็น และเห็นการทำโลกให้เย็นลงคือการมีสติแบบมนุษย์

จริงๆ ข้างต้นนี้เป็นอุบายวิธีแผ่เมตตาของพระพุทธเจ้านะครับ ท่านให้เห็นความพยาบาทเป็นเหมือนโรค เหมือนกำลังป่วยไข้ ถ้าหายจากโรคและความป่วยไข้ได้ก็จะกลับสดชื่น มีกำลังวังชาขึ้น หมายความว่า ถ้าพิจารณาเห็นความพยาบาทเป็นเหมือนโรค'ได้บ่อยๆเข้า จิตก็จะฉลาดเลือก 'อาการทางใจดีๆมากกว่าจะหลงเลือก 'ความสะใจแย่ๆ'

เมื่อ จิตฉลาดเลือกความสุข และสะสมความสุขไว้มากพอ ก็จะรู้สึกอย่างเป็นไปเองว่าอยากเผื่อแผ่ความสุขให้คนอื่น ไม่เว้นแม้แต่บุคคลผู้น่ารังเกียจ หรือกระทั่งเห็นบุคคลน่ารังเกียจเป็นผู้มีพระคุณ เป็นเหตุให้เรารู้จักความสุขจากการฝึกแผ่เมตตาได้

แต่ เอาเข้าจริง สำหรับมือใหม่หัดอภัย เพิ่งเริ่มนับหนึ่งกันวันนี้ เมื่อมีอาการผูกใจเจ็บ เหมือนใจมัดแน่นเข้ากับความน่าชิงชังของใครสักคน หรือเหตุอะไรสักอย่าง และ ณ จุดเกิดเหตุนั้น คุณจะไม่รู้สึกนึกอยากอภัย หรือกระทั่งไม่เห็นว่าโลกนี้มีเหตุผลสักข้อให้ควรอภัย ไหนจะเป็นเหมือนการให้ท้ายให้คนผิดยิ่งคิดเหลิงและกำเริบเสิบสานหนักเข้าไป ใหญ่ ไหนจะเป็นการปล่อยให้ตัวเองจุก เจ็บ และคันคะเยอ ยิ่งกว่าอยากเกาแขนแล้วไม่ได้เกา

ณ จุดของการนับหนึ่ง ถ้าอดใจไม่ได้ อยากแก้แค้นนักก็แก้แค้นไป แก้แค้นเสร็จค่อยถามตัวเอง เอาแบบคุยกับตัวเองอย่างเปิดอกจริงๆสักทีว่า 'เสร็จแล้วหายป่วยไหม?'

ใจที่ป่วยคือใจที่ฟุ้งซ่านไม่หยุด คือใจที่ถูกความมืดแห่งอารมณ์เกลียดครอบงำไม่เลิก แล้วเราหายป่วยด้วยการแก้แค้นได้ไหม?

จากนั้นเปรียบเทียบดู แค่สังเกตไปเรื่อยๆว่า 'จะเอาเรื่องคือต้นเหตุให้ทุกข์ ให้เหน็ดเหนื่อย ส่วนการ 'จะเลิกเอาเรื่องคือ ต้นเหตุให้สุข ให้หายเหนื่อย สังเกตเข้ามาที่ใจกันเป็นเดือนๆ เป็นปีๆ ไม่ใช่แกล้งทำเดี๋ยวเดียว ในที่สุดจะเย็นจริง ถึงแม้ยังโกรธได้ ยังไม่ใช่พระอนาคามี ก็ไม่ผูกใจเจ็บเยี่ยงปุถุชนทั่วไปผู้ไม่รู้จักพระสัทธรรมอันเย็นของพระศาสดา แล้ว

มักมีคำถามว่า ถ้าใครทำผิดร้ายแรงจะไม่ให้เอาเรื่องเลยหรือก็ต้องดูแบบอย่างเช่นพระศาสดา แม้ภิกษุทำผิด ท่านก็กำหนดโทษไว้หลายระดับ นับแต่ให้สารภาพผิด ประจานให้อาย ตลอดจน 'ประหารทิ้ง' (คือจับสึกแล้วไม่ต้องกลับมาบวชอีกเลย) นี่ก็แสดงว่าแม้ผู้มีเมตตาธรรมที่สุดในโลกก็ 'จัดการกับคนผิดเช่นกัน

การ ให้อภัย การไม่ผูกใจเจ็บ ไม่ได้เหมารวมถึงการไม่เรียกร้องสิทธิ์ ไม่ได้เหมารวมถึงการรักษาความถูกต้อง ถ้าเราเรียกร้องสิทธิ์อันชอบธรรม ถ้าเรารักษาความถูกต้อง โดยยืนพื้นอยู่บนการไม่ผูกใจ ก็นับเป็นวิถีทางแบบพุทธได้

ข้อสังเกตคือ เมื่อเรามีเมตตาจนกระทั่งใจเย็นจริง มีความสุขมาก และอยากให้คนอื่นสุขตาม เราจะพร้อมยอมผ่อนปรน และใช้วิธี'จัดการที่ นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่คิดอาฆาตมาดร้ายอยากให้ใครเจ็บกายหรือเจ็บใจเลย สิ่งแสดงออกที่นำหน้ามาก่อนเพื่อน ก็คือสายตา น้ำเสียง กิริยาอาการภายนอก ตลอดจนความคิดในหัวทั้งหมด

ศิลปะของการอภัยที่ดีที่สุดคือทำให้เขาสำนึกได้ว่ามันผิดที่ต้องให้คนอื่นอภัย ไม่ใช่มันเป็นหน้าที่ของใครที่ต้องยกโทษให้เสมอ

นโยบาย ที่ดีอย่างหนึ่ง คือ ใช้ใจที่อภัยแล้วนั้น ในการคุยกับเขาถึงความเป็นไปได้ที่จะไม่เกิดความผิดขึ้นอีก และถ้าเกิดความผิดขึ้นอีก เขาจะยังคงได้รับการอภัยจากเรา แต่จะไม่มีโอกาสทำผิดซ้ำอีกแล้ว

ดังตฤณ
มกราคม ๕๖



http://www.twitter.com/Dungtrin
http://www.facebook.com/Dungtrin

 

heading02

คนเราส่วนใหญ่ต้องใช้ความคิดในการทำงานเกือบตลอดวัน อย่างนี้แล้วจะมีวิธีฝึกสติระหว่างวันอย่างไร คอลัมน์ "ดังตฤณวิสัชนา" ฉบับนี้ คุณดังตฤณมีข้อแนะนำที่ปฏิบัติตามได้ทันทีที่อ่านจบค่ะ

ใครที่กำลังคิดว่าตนประสบปัญหาที่หนักหนาสาหัสจนไม่มีทางออก ต้องไม่พลาดคอลัมน์ "โหรา (ไม่) คาใจ" ฉบับนี้ เพราะคุณ Aims Astro มีทางออกสำหรับทุกปัญหาไว้ให้แล้ว ในตอน "สู้ด้วยสติ" 

ส่วนใครที่กำลังท้อแท้กับความไม่พร้อมในเรื่องใดก็ตาม อ่านคอลัมน์ "จุดหมายปลายธรรม" ฉบับนี้จากคุณงดงามแล้ว รับรองว่าจะได้มุมมองใหม่ที่ทำให้มีกำลังใจขึ้นอย่างแน่นอน ในตอน "ทำงานท่ามกลางความขาดแคลน" ค่ะ

 


heading03


อนุโมทนากับทุกๆท่านที่ได้ร่วมจัดพิมพ์หนังสือมหาสติปัฏฐานสูตรค่ะ  sathu2
ตอนนี้ทางทีมงานได้กระจายหนังสือส่งไปตามมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั่วประเทศ
ถวายวัดและพระสงฆ์ตามที่ท่านได้แจ้งเจตจำนง
และอยู่ในระหว่างการติดต่อบริจาคหนังสือไปห้องสมุด เรือนจำและสถานกักกันทั่วประเทศค่ะ
รายชื่อสถานที่และจำนวนหนังสือที่บริจาคไปทุก ๆ ท่านสามารถดูและร่วมอนุโมทนาได้ที่ 
https://docs.google.com/spreadsheet/ccc?key=0Al-bz-KtQBqHdHpMSFpsVXpEZUlwWk4xSnZmWV9td3c 
(ในตารางชื่อ 
'สรุปรายการธรรมทาน' ค่ะ)

สำหรับกรณีค่าจัดส่งหนังสือสำหรับผู้ที่แจ้งให้จัดส่ง (ในราคาเล่มละ ๓๕ บาท)
เนื่องจากมีหลายๆท่านมาช่วยในการจัดส่ง ทำให้เงินสำหรับใช้จ่ายส่วนนี้ยังมีเหลืออยู่
ทางทีมงานจึงขอนำเงินส่วนนี้ ไปเป็นค่าใช้จ่ายในการถวายหนังสือ 
สำหรับมหาวิทยาลัยสงฆ์ทั่วประเทศ
 และส่งหนังสือถวายพระภิกษุสงฆ์ต่อไปนะคะ

 


                        

 

 

mahasati


สำหรับท่านที่ต้องการร่วมทำบุญ หรือต้องการรับหนังสือ สามารถดูรายละเอียดได้ที่
http://www.facebook.com/#!/photo.php?fbid=431373233586507&set=a.172991172758049.44204.169990773058089&type=1&theater

หากต้องการบริจาคเพื่อสมทบค่าจัดส่งถวายพระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะ
กรุณาแจ้งไว้อย่างชัดเจนว่าต้องการสมทบเป็นจำนวนเงินเท่าใด
โดยเงินจำนวนนี้ทางทีมงานจะแยกไว้ต่างหาก
ไม่นำไปเกี่ยวข้องกับการจัดพิมพ์หรือการจัดส่งให้ท่านอื่นๆ

   กรณีท่านที่เป็นภิกษุสงฆ์ประสงค์จะขอบิณฑบาตหนังสือ  
ให้แจ้งชื่อ ฉายา พร้อมที่อยู่วัดมาได้ทางเมลเดียวกัน (เกสราkesara_t@yahoo.com)
ทางทีมงานจะจัดส่งไปถวายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ แม้จะอยู่ต่างประเทศก็ตาม
หากต้องการหลายเล่มเพื่อส่งไปถึงวัดเดียวกัน
ให้ระบุจำนวนหนังสือพร้อมชื่อและฉายาของทุกท่านมาด้วย
ขอความกรุณาอย่าแจ้งแทนโดยที่พระไม่ได้ต้องการนะครับ
เพราะไม่ต้องการให้หนังสือในส่วนที่ร่วมกันบริจาคเป็นสังฆทาน
ต้องถูกทิ้งไปโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ


กราบอนุโมทนาร่วมกันกับทุกท่าน
ขอการร่วมบุญใหญ่นี้ จงเป็นพละปัจจัยให้ถึงซึ่งนิพพาน
บนเส้นทางแห่งความสมัครสมานสามัคคี
รักใคร่ปรองดองกันด้วยเถิด _/\_ _/\_ _/\_


--
 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น: