วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

[SIAMHRM.COM :23825] เทคนิคการเอาตัวรอดของหัวหน้างานยุค " มาตรฐานแรงงานไทย"

 

เทคนิคการเอาตัวรอดของหัวหน้างานยุค     มาตรฐานแรงงานไทย

วิกูล  โพธิ์นาง

pd_wikulp@hotmail.com

www.oknation.net/blog/wikulponang

๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๐

 

บ่อยครั้งที่หัวหน้างานถูกกล่าวหาว่าลวนลามหรือล่วงละเมิดทางเพศผู้ใต้บังคับบัญชา    จริงเท็จอย่างไรยังไม่ปรากฏ   เมื่อถูกร้องเรียนหรือเป็นข่าวย่อมทำให้ชื่อเสียงเกียรติยศมิใช่น้อย  หัวหน้างานจึงควรรู้เทคนิคนี้ไว้ป้องกันตนเอง

               

                จากปัจจุบันที่การจ้างงานมีหญิงชายทำงานผสมกันไปนั้น มีทั้งผู้ประสงค์ดีต่อหัวหน้าและประสงค์ร้าย  การสื่อสารรวดเร็วขึ้น  ประกอบกับพนักงานในทุกภาคส่วนได้รับการคุ้มครองตามมาตรฐานแรงงานไทย  รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  แต่ละสถานประกอบการไม่สามารถอ้างได้ว่าไม่ได้นำมาตรฐาน  หรือกฏหมายดังกล่าวมาปฏิบัติ  

 

                กฎหมายที่ออกมาก็น่าจะเป็นคุณทั้งสองฝ่ายทั้งนายจ้างและลูกจ้าง  แต่ในทางปฏิบัติลูกจ้างย่อมได้รับความเห็นใจมากกว่า ดังจะเห็นได้จากเมื่อเกิดเหตุเป็นข่าวทุกครั้ง  ฝ่ายเสียเปรียบคือนายจ้างหรือหัวหน้างานเพราะสังคมจะมองว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก  หัวหน้างานในยุคของมาตรฐานแรงงานไทย  จึงควรมีหลักปฏิบัติที่จำง่ายใช้ได้ผลเพื่อป้องกันตนเอง

 

                โดยเฉพาะเรื่องของการลวนลามทางเพศ ล่วงละเมิดทางเพศที่ท่านอาจจะเป็นจำเลยโดยไม่ได้ทำความผิด  ไม่เฉพาะหัวหน้างานชายเท่านั้น หัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาหญิงก็ต้องควรรับรู้ไว้เช่นกัน  

 

            มาตรฐานแรงงานไทย  (  มรท. ๘๐๐๑  ๒๕๔๖) ในข้อ    5.7.3 ความว่า สถานประกอบกิจการต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ลูกจ้างถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยการแสดงออกด้วยคำพูด ท่าทาง หรือการสัมผัสทางกายโดยเฉพาะลูกจ้างที่เป็นหญิงหรือเด็ก

 

            ถึงสถานประกอบการมีมาตรการป้องกันแล้ว  เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้มีมลทินผิดมาตรฐานแรงงานไทยโดยไม่ตั้งใจ  จึงขอนำวิธีที่จะสามารถช่วยท่านได้นั่นก็คือ อย่าอยู่ในที่   ลับหู   ลับตา   กับลูกน้องที่เป็นเพศตรงข้ามกับท่านเพียงสองต่อสอง

       ลับหู                   ( ไม่ได้ยินด้วยหู  แต่รู้เห็นด้วยตา )

                ลับตา              ( ไม่รู้เห็นด้วยตา  แต่ได้ยินด้วยหู )

                ลับหูลับตา     (  ไม่ได้ยินด้วยหู  ไม่รู้ไม่เห็นด้วยตา )

 

                ถ้าจำเป็น ท่านต้องหาพนักงานที่เป็นบุคคลที่สาม  ไม่สนิทกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและสามารถเป็นพยานให้ท่านได้เมื่อเกิดเหตุภายหลัง   อย่าทำห้องทำงานหรือจุดทำงานของท่านเหมือนเป็นห้องลับแล มีเลขาหน้าห้องก็ควรทำประตูเป็นกระจกเมื่อเรียกใช้งานก็มิควรปิดประตู เป็นต้น         เอาเป็นว่า ทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ลับหูลับตา   ต้องทั้งสองอย่างพร้อมกันนะครับ

                พระสงฆ์องค์เจ้าท่านยังได้รับความลำบากใจเลยตามที่เป็นข่าวบ่อยๆ ที่พระคุณเจ้าบางรูปท่านถูกกล่าวหาว่าลวนลามสีกา  ซึ่งสีกาเองตอนแรกก็มาในนามผู้แสวงบุญสุดท้ายกลายเป็นนารีพิฆาตร  พระคุณเจ้าท่านระวังมากครับปัจจุบัน  น้องๆที่เป็นพนักงานเพื่อความสบายใจก็อย่าอยู่ในที่ลับหู  ลับตา กับ หัวหน้า หรือคนอื่นๆ ที่ไว้ใจไม่ได้ จะเป็นการดียึดหลักไว้ครับ ปลอดภัยไว้ก่อนไม่ใจอ่อนเด็ดขาด

 

                กุศโลบายที่ผมได้นำมาเรียนท่านนั้นประยุกต์มาจากวิธีการพิจารณาอาบัติของพระสงฆ์พุทธศาสนา ที่เรียกว่า อนิยต   โดยห้ามพระอยู่ในที่ลับหูลับตากับหญิงสองต่อสอง ฯลฯ ครับ ธรรมทางศาสนาสามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์    แล้วขณะนี้ท่านอยู่กับใคร ที่ไหน...?

 

////////////////////

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ้างอิง : มาตรฐานแรงงานไทย    มรท. ๘๐๐๑ ๒๕๔๖ (ความรับผิดชอบทางสังคมของธุรกิจไทย: ข้อกำหนด) กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน

 

 


อีเมลของคุณและบริการอื่นๆ ที่พร้อมใช้งาน รับ Windows Live Hotmail ฟรี ลงทะเบียนเดี๋ยวนี้

ไม่มีความคิดเห็น: