วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

[SIAMHRM.COM :28660] มศวเร่งสวัสดิการพนักงานเข้ากองทุนประกันสังคม

คมชัดลึก :มศวเร่งสวัสดิการพนักงานเข้ากองทุนประกันสังคม ประเมินถี่ต้องการให้อาจารย์พนักงานพัฒนาตัวเอง ไม่ย่ำอยู่กับที่ ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2553  ศ.ดร.วิรุณ ตั้งเจริญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงกรณีของพนักงานมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒส่วนหนึ่งได้เข้ารับข้อมูลที่กองการเจ้าหน้าที่ร่วมกับสำนักงานประกันสังคมพื้นที่เขต 8 จัดให้ความรู้ในหัวข้อ “สวัสดิการพนักงานมหาวิทยาลัยและการเข้ากองทุนประกันสังคม” โดยมีพนักงานส่วนหนึ่งได้เข้าเรียกร้องสิทธิของตัวเองต่ออธิการบดีว่าขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยกำลังหาข้อมูลที่จะจัดการเรื่องสวัสดิการของพนักงานเข้ากองทุนประกันสังคมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่แล้วและพนักงานที่กำลังจะเข้ามาทำงานใหม่ การจะจัดการในเรื่องนี้มีต้นทุนทางมหาวิทยาลัยต้องคิดคำนวณและเราก็ไม่ได้นิ่งเฉยในเรื่องสวัสดิการเหล่านี้ ซึ่งเท่าที่ทราบบางมหาวิทยาลัยก็ยังอยู่ในขั้นดำเนินการหาข้อมูลเช่นกัน จึงอยากให้พนักงานมหาวิทยาลัยอย่าเพิ่งใจร้อน ทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยกำลังศึกษาและจะดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

 นอกจากนี้ ในเรื่องของการประเมินพนักงานมหาวิทยาลัยในสายอาจารย์นั้น ถ้าเป็นอาจารย์พนักงานที่ได้รับการบรรจุใหม่นั้นต้องทดลองงาน 4 เดือน จากนั้นจะมีการทำสัญญาจ้าง 1 ปี เมื่อเสร็จสิ้นสัญญาจ้างจะมีการต่อสัญญาจ้างเป็น 3 ปี แล้วถึงจะต่อเป็นสัญญาจ้าง 5 ปี ในกรณีที่มหาวิทยาลัยจะต่อสัญญาจ้างให้นั้นจะดูว่าอาจารย์คนนั้นได้พัฒนาตัวเองทำมากน้อยแค่ไหน ทำผลงานวิจัยหรือทำผลงานทางวิชาการหรือไม่ ได้ขยับตำแหน่งจากอาจารย์มาเป็นผศ. รศ. ศ.หรือไม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) ศาสตราจารย์ (ศ.) หรือไม่ ตลอดถึงพนักงานมหาวิทยาลัยที่รับเข้ามาในตำแหน่งอาจารย์จะต้องเรียนต่อในระดับปริญญาเอกภายใน 3 ปี สิ่งเหล่านี้ทางมหาวิทยาลัยกำหนดเป็นข้อบังคับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒว่าด้วยพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ.2552 เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีโอกาสได้พัฒนาและไม่ย่ำอยู่กับที่

 "ต่อแต่นี้ไปทุกคนนต้องเร่งพัฒนาตัวเองอีกทั้งการทำงานด้านการเรียนการสอน จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องได้ครูอาจารย์ที่มีความกระตือรือร้นทางวิชาการและพัฒนาตัวเองโดยไม่หยุดยั้ง อย่าลืมว่าการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษาเราต้องได้ครูอาจารย์ที่พัฒนาตัวเองและทำงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง ถ้ามศวไม่ตั้งกำหนดเป็นข้อบังคับมหาวิทยาลัยฯ ในลักษณะนี้ขึ้นมา เราก็จะไม่สามารถก้าวเข้าสู่การเป็นมหาวิทยาลัยที่พัฒนาตัวเองได้อีกในขณะนี้โลกเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันและการประเมินตัวเองตลอดเวลา การส่งอาจารย์ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกนั้นทางมหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาให้ซึ่งก็ได้ทำการระดมทุนอย่างมากเพื่อส่งอาจารย์ศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกให้มากที่สุด ในเรื่องเหล่านี้ก็ได้พูดและชี้แจงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอาจารย์จำนวนมากที่เข้าใจและไม่ออกมาเรียกร้อง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่เข้าใจและมีอาจารย์บางคนพยายามสร้างประเด็นเพื่อให้เกิดความขัดแย้ง ขอบอกว่าถ้าอาจารย์ทำหน้าที่สอน วิจัย ทำผลงานทางวิชาการอย่างต่อเนื่องไม่ต้องกลัวการประเมินเลย อีกทั้งการประเมินจะทำให้อาจารย์มีความก้าวหน้าในชีวิตอีกต่างหากด้วย" อธิการบดีมศว กล่าว

 ศ.ดร.วิรุณ กล่าวอีกว่า พนักงานมหาวิทยาลัยได้รับสวัสดิการ เงินเดือนแรกเข้าตลอดถึงการขึ้นเงินเดือนได้มากกว่าข้าราชการ ดังนั้นการที่มหาวิทยาลัยกำหนดข้อบังคับขึ้นมาเพื่อเราต้องการประเมินผลการทำงานเพราะมิฉะนั้นแล้วการทำงานก็จะเหมือนระบบราชการ เนื่องจากแต่เดิมระบบราชการก็เป็นระบบที่ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม จวบกระทั่งรัฐบาลเองได้ประกาศให้ราชการหมดไปจากสังคมไทย จึงไม่มีการรับข้าราชการเข้าทำงานในหน่วยงานต่างๆ จวบถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้หน่วยงานราชการทุกแห่งจึงมีแต่พนักงานในสังกัด โดยที่ข้าราชการค่อยๆ หมดไปและจะมีพนักงานเข้ามาแทนที่ข้าราชการ

 ทั้งนี้เมื่อเวลา 10.30 น.ที่บริเวณหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร กลุ่มตัวแทนพนักงานมหาวิทยาลัย ประมาณ 50 คน ได้มีการรวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรม 3 กรณี ได้แก่1.การที่มหาวิทยาลัยระเบียบออกข้อบังคับมศว.ว่าด้วยพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ.2552 ได้บัญญัติเรื่องการจ้างงาน การบรรจุและแต่งตั้งพนักงานแตกต่างไปจากเดิม โดยไม่มีการบรรจุอีกต่อไป มีแต่การจ้างงานตามสัญญาเป็นระยะๆ คราวละไม่เกิน 5 ปี และยกเลิกระเบียบพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ.2544 ที่กำหนดว่าพนักงานมศว ที่ทำงานครบ 5 ปี และผ่านการประเมินการปฎิบัติงาน จะได้รับการคุ้มครองความมั่นคงในการทำงาน เพราะจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นพนักงานประจำ

 2.การประกาศการจ้างงานและสัญญาการจ้างงานที่บั่นทอนพนักงานมศว.สายวิชาการ (คณาจารย์) ส่งผลให้พนักงานสายอาจารย์ถูกบังคับให้ศึกษาต่อระดับปริญญาเอกในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหากไม่ทำตำแหน่ง ผศ. ,รศ. หรือเรียนจบปริญญาเอกในระยะเวลาที่กำหนด อาจถูกเลิกสัญญาจ้างงาน และ3.ประกันสังคมตามบทบัญญัติของกฎหมายที่ถูกละเลย โดย3 ประเด็นข้างต้นได้สร้างความเดือนร้อนแก่มหาวิทยาลัยประมาณ 1,000 กว่าคน จากพนักงานมหาวิทยาลัย 2,000 คน

 นายมงคล ศริวัฒน์ กรรมการสภาคณาจารย์มศว  กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนไม่เสียผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าวเนื่องจากตนเป็นข้าราชการไม่ใช่พนักงานมหาวิทยาลัย แต่ตนได้เห็นปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการจ้างงาน และสวัสดิการ เนื่องจากการจ้างงานคราวละ 5 ปี ทำให้พนักงานมหาวิทยาลัยไม่สามารถทำนิติกรรมทางการเงินกับสถาบันต่างๆ หรือแม้แต่กู้สหกรณ์ของมหาวิทยาลัยยังไม่ได้ ส่วนเรื่องสวัสดิการ ที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ให้สวัสดิการ 15,000 บาทต่อปีในการดูแลค่ารักษาพยาบาล ค่าเลี้ยงดูบุตร และไม่มีประกันสังคมให้ แต่พอมาตอนนี้มหาวิทยาลัยกลับมาบังคับให้พนักงานมหาวิทยาลัยเข้าหลักประกันสังคม ภายในเดือนต.ค.นี้ เนื่องจากมีกฎหมายแรงงาน ออกมาให้หน่วยงานต่างๆ ทำประกันสังคม หรือหลักประกันที่ดีกว่าแก่พนักงาน เนื่องจากกลัวถูกพนักงานฟ้องร้อง และไม่มีการแจ้งพนักงานมหาวิทยาลัยล่วงหน้า ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ 10 ปี ไม่มีการทำประกันสังคม

 "เวลามหาวิทยาลัยทำอะไรไม่เคยแจ้งให้พนักงาน คณาจารย์มหาวิทยาลัยได้รับทราบ มีแต่การตัดสินใจในระดับผู้บริหารและดำเนินการทันที หรือถ้ามีการทำประชาพิจารณ์ต่อให้สภาคณาจารย์ไม่เห็นด้วยเรื่องอะไร มหาวิทยาลัยไม่เคยนำมาทบทวน แต่กลับไปประกาศใช้ทันที และหากใครออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมมากๆ ก็จะถูกสอบส่วนและพิจารณาความผิดเพื่อให้ออกจากราชการ เช่นเดียวกับอ.สุรภล จรรยากูล ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมศว.ทั้งที่เป็นมหาวิทยาลัยผลิตครูที่เก่าแก่ แต่ทำอะไรทำไมไม่เคยนึกถึงครูบาอาจารย์ พนักงานของมหาวิทยาลัยบ้าง"นายมงคล กล่าว

 นางศศิธร ทิมทอง พนักงานมศวในส่วนของศูนย์การแพทย์ องค์รักษ์ กล่าวว่า  ตนยอมลาออกจากโรงพยาบาลเอกชนเพื่อมาทำงานที่มศว.เนื่องจากโดยส่วนตัวมองว่าการมาทำงานในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นส่วนราชการ จะสร้างความมั่นคงแก่ครอบครัวได้ และจากระเบียบข้อบังคับพนักงานมหาวิทยาลัย พ.ศ.2544 ได้มีการกำหนดไว้ว่า หากทำงานครบ 5 ปี และผ่านการประเมินจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ แต่พอทำงานครบ 6 ปี ทั้งที่ต้องได้รับการบรรจุ กลายเป็นว่าทางมหาวิทยาลัยออกระเบียบข้อบังคับใหม่ ทำให้ตนไม่ได้รับบรรจุ ตอนแรกงงมาก ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยไม่ได้มีการประกาศอะไร และเพิ่งมารู้เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ว่ามหาวิทยาลัยได้มีการออกระเบียบข้อบังคับฯใหม่แล้ว และเมื่อได้ดูข้อบังคับใหม่ฯ รู้สึกว่าไม่เป็นธรรมต่อตนเองอย่างมาก

 “ตอนนี้ทำงานมา 6 ปีแล้ว ยังได้เงินเดือนประมาณกว่า  10,000  บาท แถมเงินชดเชยเมื่อทำงานนอกเวลาก็ไม่ได้ลาป่วย ลาพักร้อน ก็ถูกหักเงิน แถมสวัสดิการที่ได้รับ 15,000 บาทต่อปี ตามหลักหากไม่ได้ใช้เงิน สวัสดิการ หรือลาออก ต้องได้รับเงินสวัสดิการเหล่านั้นกลับมา แต่กลายเป็นว่า หากเราลาออกเงินส่วนนั้นก็หายไป ไมได้รับคืน ก็ไม่เข้าใจว่าหายไปไหน ทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรออกมาชี้แจ้งว่าเงินหายไปไหน ไม่ใช่นิ่งเฉยหรือมีการทวงติงแล้วไม่รับฟังอย่างที่ผ่านมา ซึ่งหากผู้บริหารม.ไม่ทำการแก้ข้อบังคับฯ ทางพนักงานมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในส่วนของศูนย์การแพทย์ประมาณ 900 -1,000 กว่าคน คงต้องทำการล่ารายชื่อและร้องขอความเป็นธรรมไปยังศาลปกครองต่อไป และหากทำอะไรไม่ได้จริงๆ เชื่อว่า ทุกคนคงลาออกไปอยู่ที่อื่น” นางศศิธร กล่าว

 ผศ.ดร.ศิริพร ปัญญาเมธิกุล อาจารย์ประจำภาควิชามนุษยศาสตร์และสังคม มศว  กล่าวว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องพนักงานสายอาจารย์ถูกบังคับให้ศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ทำตำแหน่งผศ.,รศ.ในระยะเวลาที่กำหนด ไม่เช่นนั้นจะถูกยกเลิกการจ้างงาน แต่เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อเพื่ออาจารย์จำนวนไม่น้อย เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากได้ตำแหน่งผศ.รศ. และจบป.เอก แต่ระบบการทำงานของมศวไม่เอื้อให้อาจารย์มีเวลามากพอในการทำตำแหน่งทางวิชาการเหล่านั้น  เนื่องจากตามสัญญาจ้างงานได้กำหนดให้อาจารย์ต้องทำการสอน ทำงานวิจัย ทำนุบำรุงมหาวิทยาลัย และภารกิจอีกมากมาย การที่จะให้อาจารย์เรียนต่อป.เอก ผศ.รศ.ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย  ดังนั้น ผู้บริหารมหาวิทยาลัยควรมีการจัดระบบการเรียนการสอน การบริหารที่เอื้อให้อาจารย์ได้มีเวลาในการเรียนต่อ หรือทำตำแหน่งทางวิชาการด้วย


--
"การให้ที่ยิ่งใหญ่... คือการให้ต่อไปไม่สิ้นสุด"

--
- โปรดร่วมกัน เสวนา ถาม-ตอบ วันละ 1 กระทู้ สร้างความรู้ใหม่ได้ มหาศาล -
 
แนะนำ :
 
http://www.JobSiam.com : โปรโมชั่น*! ลงประกาศตำแหน่งงาน รับส่วนลดลด 40 % ถึง 31 สิงหาคม 2553 นี้
http://www.SiamHRM.com : สยามเอชอาร์เอ็ม ดอทคอม รวมพลคนทำงาน มากที่สุด
http://www.facebook.com/JobSiam ติดตามตำแหน่งงาน Update. ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
 
คุณได้รับข้อความนี้เนื่องจากคุณเป็นสมาชิกกลุ่ม Google Groups กลุ่ม "บริหารทรัพยากรมนุษย์ ประเทศไทย"
- หากต้องการโพสต์ ถึงกลุ่มนี้ ให้ส่งอีเมลไปที่ siamhrm@googlegroups.com
- หากต้องการยกเลิกการเป็นสมาชิกกลุ่ม ส่งอีเมลไปที่ siamhrm+unsubscribe@googlegroups.com (ยืนยัน การยกเลิกใน Email อีกครั้ง.)
- หากต้องการดูกระทู้ หัวข้อ HR โปรดไปที่กลุ่มนี้โดยคลิกที่ http://groups.google.co.th/group/siamhrm?hl=th&pli=1
- เนื่องจากสมาชิกมีจำนวนมาก สมาชิกทุกท่าน ควรอ่านกติกา มารยาท และใช้เมล์กรุ๊ปร่วมกัน อย่างสร้างสรรค์
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ไม่มีความคิดเห็น: